ห่วงให้อำนาจมากไป “กิตติศักดิ์” ระบุ ร่างปลดล็อกท้องถิ่นเหมือนผลไม้พิษ

“ส.ว.กิตติศักดิ์” ระบุ ร่างปลดล็อกท้องถิ่นเหมือนผลไม้พิษ ห่วงให้อำนาจมากไป ขณะ “ประเดิมชัย” มองอย่ากลัวอะไรจนเกินเหตุ แฉยังมีสมาชิกกินเงินกองทุนมูลนิธิที่พิจิตร ทำ “ส.ว.กิตติศักดิ์” ลุกโต้ บอกถ้าอยากเสียดสี ช่วยทำการบ้านมาก่อน

 

 

การประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 14 หรือร่างปลดล็อกท้องถิ่น ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมกับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 80,772 รายชื่อ เป็นผู้เสนอ

 

โดยนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้อภิปราย โดยหยิบเอกสารคู่มือปลดล็อกท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า พร้อมกับระบุว่า ตนเคยได้รับเชิญไปดูงานเรื่องท้องถิ่นในประเทศญี่ปุ่น พบว่า ใช้เวลาเป็น 100 ปีกว่าจะลงตัว สามารถกระจายอำนาจได้อย่างปัจจุบัน ซึ่งจากการดูเอกสารของคณะก้าวหน้า พบว่าน่าสนใจ แต่มีแค่ความสวยอย่างเดียว เป็นการแก้รัฐธรรมนูญในหมวดท้องถิ่น แต่เป็นต้นไม้พิษ เป็นผลไม้พิษ

 

ทั้งนี้ เพิ่งรู้ว่าน้ำประปาสีขุ่นเป็นชา จึงเป็นเหตุให้ต้องแก้รัฐธรรมนูญได้ พร้อมย้ำว่าร่างปลดล็อกท้องถิ่นดังกล่าว มีพิษ เพราะทุกวันนี้ท้องถิ่นก็มีการเลือกตั้งอยู่แล้ว มองว่าจะเกิดปัญหาเจ้าพ่อ เจ้าแม่ทั่วประเทศ

 

ดังนั้น การมีนักการเมืองแก่ๆ พอที่จะรู้ทัน จึงต้องเป็นปากเป็นเสียงให้กับพี่น้องประชาชน อีกทั้ง มีประชาชนตั้งคำถามว่า การที่ให้นายธนาธร เสนอร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี และโดนคดีมาตรา 112 เหตุใด จึงสามารถเข้าสภาได้อย่างหน้าตาเฉย

 

จากนั้น นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายต่อว่า ตนได้ฟังสมาชิกอภิปรายคนก่อนหน้า ส่วนตัวเห็นว่า ควรสนับสนุนให้มีการปลดล็อกท้องถิ่น เพื่อกระจายอำนาจ เพราะมองว่า หากส่วนท้องถิ่นปกครองตัวเองให้เข้มแข็งได้ รัฐบาลการก็จะรับภาระในการรับผิดชอบน้อยลง และมีหลายคนใช้ความเชื่อในทัศนคติแบบเดิมๆ พูดทำนองที่ดูถูกประชาชน คิดว่าประชาชนคนไทยทั้งประเทศไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถหรืออย่างไร การที่ประชาชนจะตัดสินใจในการเลือกใครมาเป็นผู้บริหารท้องถิ่นในระดับใด หมายความว่าเขา เชื่อว่าบุคคลคนนั้นจะนำมาหรือนำพาซึ่งการแก้ไขปัญหาได้

 

นายประเดิมชัย กล่าวว่า วันนี้เรายังยึดติดกับเจ้าพ่อ เจ้าแม่ ซึ่งไม่มีแล้ว เพราะประชาชนหูตาสว่าง มีความรู้ และเข้าใจว่าควรเลือกใครไปเป็นผู้แทน และจะกลัวอะไรที่เกิดเหตุพร้อมเปิดเผยว่า ในฐานะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ได้เดินทางไปที่จังหวัดพิจิตร เชื่อหรือไม่ว่าคนไปนั่งเฝ้าที่วัดบางคลาน เพราะมีคนไปกินเงินทุนของมูลนิธิวัดบางคลาน ไม่รู้ว่าอยู่ในห้องนี้หรือไม่ วันนี้ไปดูได้ ก็ยังมีคนนั่งเฝ้า แล้ววันนี้มาบอกว่าคนที่ยกร่างผิดกฎหมาย แต่คนที่อยู่ในที่นี้ ไม่รู้ว่าผิดกฎหมายหรือไม่

 

ทำให้นายกิตติศักดิ์ ยกมือประท้วง ยอมรับว่า ตนถูกพาดพิง เพราะไปวัดบางคลาน พร้อมระบุว่า ตนไม่ได้โกรธเคือง แต่อยากจะเสียดสีตน ช่วยไปหาข้อมูลให้ดี ตนไปในฐานะเจ้าหน้าที่ ไปจับโจร ทำให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานในที่ประชุม บอกให้พอ เนื่องจากนายประเดิมชัยไม่ได้ระบุชื่อ จึงเกิดการประท้วงไปมา ระหว่างนายกิตติศักดิ์และนายประเดิมชัย จนทำให้นายพรเพชร ประกาศว่า ถ้ายังมีการเถียงกันอยู่ จะเชิญออกนอกห้องจะได้เจอกันสักที วันนี้ผมทำงานเต็มที่ถึงบ่าย 2 โมงแล้ว

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews