ลุ้นระทึก! ฮ.บินช่วย ‘ลูกช้างป่าสีชมพู’ หายากกลางป่าลึก คาดถูกฝูงขับไล่เพราะสีแปลกตา

ซึ่งเจ้าหน้าที่เดินทางด้วยความลำบาก โดยใช้รถยนต์โฟล์วีลแต่ไปได้เพียงครึ่งทาง จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าไปอีกราว 2 ชั่วโมง ก่อนพบที่เกิดเหตุบริเวณใต้ต้นไม้ พบลูกช้างพังเพศเมียเพิ่งคลอด ที่บริเวณใต้ท้องพบว่าสายสะดือยังไม่หลุด สภาพซูบผอม เดินไม่ไหว ทีมสัตวแพทย์จึงเข้าไปตรวจร่างกาย เพื่อปฐมพยาบาล พบผิวหนังมีสีแปลกกว่าช้างทั่วไป ที่มีสีดำ โดยมีสีออกชมพู มีรอยบาดแผล และรอยขีดข่วนตามตัว เชื่อว่าเกิดจากการถูกหนามและกิ่งไม้ ทิ่มตำ ห่างไม่ไกลรอบตัวลูกช้าง พบรอยเท้าเสือดาว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ลูกช้างเกิดมามีสีแปลก จึงถูกช้างในฝูงขับไล่ รวมทั้งเมื่อออกจากฝูง ก็มีเสือดาว ไล่ทำร้าย จึงวิ่งหนีมาตลอด ไม่ได้กินนมและหมดแรงเดิน ก่อนมีผู้พบเห็น จนทำให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยรอดตายหวุดหวิดในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทีมสัตวแพทย์ ดูอาการแล้ว จะต้องนำลูกช้างออกไปรักษาดูแลข้างนอกป่า แต่ไม่สามารถจะนำออกจากป่าลึกได้ นายไชยวุฒิ จึงประสานไปยังกรมอุทยานฯ เพื่อขอเฮลิคอปเตอร์ นำลูกช้างออกจากป่าลึก แต่เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ของกรมฯ มีขนาดเล็ก ทำให้ไม่สามารถนำลูกช้างใส่ข้างในได้ จึงติดต่อประสานไปยัง พ.อ.ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า เพื่อขอสนับสนุน เฮลิคอปเตอร์ของทหาร ซึ่งมีลำใหญ่ เพื่อนำลูกช้างออกจากป่าให้ได้

ต่อมาภายหลัง พล.ต.วุทธยา จันทมาศ ผบ.พล.ร.9 พ.อ.รณวรรณ พจน์สถิตย์ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า/ผบ.ร.9 ได้รับทราบ จึงได้สั่งการสนับสนุนเฮลิตอปเตอร์ในการเคลื่อนย้ายช่วยลูกช้างนี้ โดย จนท.อุทยานฯ ได้เร่งทำสนาม ฮ. ในกลางป่าลึก บริเวณที่พบลูกช้าง อย่างเร่งด่วน เชื่อว่าภายในค่ำนี้ จะสามารถนำลูกช้างออกจากป่าได้อย่างแน่นอน ภายหลังจากนำลูกช้างป่าเพศเมียออกมาดูแลรักษาแล้ว จะทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ว่าผิวหนังลูกช้างป่าเพศเมียตัวนี้เหตุใดจึงมีสีชมพู อาจจะเป็นช้างเผือกหรือไม่ คงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และหากเป็นช้างเผือกจริง ก็เป็นนิมิตหมายที่ดีของประเทศไทย ที่มาพบช้างเผือกหายากในครั้งนี้.