‘ส.ต.อ.’ เครียดเรื่องงาน ใช้ 9 มม. จ่อขมับปลิดชีพตัวเองริมป่าละเมาะ
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับประชาชนคนไทยที่จะเดินทางออกนอกประเทศ ต้องศึกษาข้อกำหนดการเดินทางเข้าของแต่ละประเทศให้ดี ซึ่งหลายประเทศมีการขอข้อมูลการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิดหรือที่เรียกว่าวัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport) ซึ่งประชาชนสามารถทำผ่านระบบออนไลน์ได้ ด้วยแอพพลิเคชั่น “หมอพร้อม” (E-vaccine passport) แต่ขณะนี้ กรมควบคุมโรค แจ้งว่า แอพหมอพร้อมมีการอัพเดท version ใหม่ทำให้ผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือระบบแอนดรอยด์ (Android) ไม่สามารถขอ E-vaccine passport ได้
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. พ.ต.ท.สุชาติ รุ่งเรือง สว.(สอบสวน) สภ.หนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิต บริเวณป่าละเมาะริมทาง ภายในโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ปึกเตียน อ.ท่ายาง รีบรายงานให้ พ.ต.อ.ธิป เข่งคุ้ม ผกก. ทราบ ก่อนประสานชุดสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลท่ายาง ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะริมทางเข้าหมู่บ้าน พบรถ จยย.ฮอนดา พีซีเอ็กซ์ สีขาว ทะเบียน 1 กช 8194 ประจวบคีรีขันธ์ จอดอยู่ 1 คัน ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย สภาพนอนหงายสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ มือขวากำปืนซิกซาวเออร์ สีดำ ขนาด 9 มม. 1 กระบอก และพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 1 ปลอกตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการต่อสู้ โดยพบร่องรอยกระสุนปืนเข้าที่ขมับขวาทะลุกกหูซ้าย 1 แผล ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ
ส.ต.อ.อิศรา สีสด อายุ 32 ปี ผู้บังคับหมู่ สังกัดกองกำกับการ 7 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ค่ายศรียานนท์ ต.บางเก่า อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
ด้าน นายสำเนา พูลเกษม อายุ 53 ปี ชาวบ้านที่รับจ้างดูแลบ้านพักในโครงการที่พบศพ กล่าวว่า ช่วงเย็นวานที่ผ่านมาตนขี่รถ จยย.ผ่านจุดเกิดเหตุ เห็นรถ จยย.ผู้ตายจอดอยู่แต่ไม่ได้เอะใจอะไร จากนั้นช่วงสายวันนี้ตนขี่รถ จยย.ผ่านมาอีกครั้งจึงเดินเข้าไปดูก็เห็นมีคนนอนอยู่ พยายามเรียกให้ลุกแต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงเข้าไปดูใกล้ๆพบว่าเสียชีวิตแล้ว ก่อนแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ
ขณะที่ เพื่อนผู้ตาย ให้การว่า ประมาณเดือนครึ่งที่ผ่านมา สังเกตเห็นผู้ตายมีอาการผิดปกติ ซึมๆ เศร้าๆ อยากอยู่คนเดียว ปกติเป็นคนร่าเริงเวลาอยู่กับเพื่อน ผู้ตายไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่มักบ่นให้ฟังว่าจะทำงานที่ได้รับมอบหมายดีพอไหม และมองดูมีอาการเครียดมาตลอด ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขี่รถ จยย.คันดังกล่าว ไปหาแฟนของตนซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่บ้านพัก และนั่งร้องไห้อยู่กับแฟนของตน ก่อนบ่นให้ฟังว่าเครียดเรื่องงาน ถ้าจบชีวิตตัวเองจะดีไหม เรื่องทุกอย่างจะจบไหม แล้วมีอาการเหมือนโรคซึมเศร้า เริ่มตัดพ้อตัวเอง หลังจากนั้นได้ขี่รถ จยย.หายออกไป ก่อนญาติๆและเพื่อนๆได้โพสต์เฟซบุ๊กตามหา กระทั่งมาพบว่าเสียชีวิตแล้ว
ขอบคุณที่มา ข่าวเดลินิวส์
โพสต์โดย : ปลายน้ำ
