Social :



สาวกรี๊ดลั่น หม้อไฟหม่าล่าระเบิดใส่หน้า แสบร้อนจนตาพร่า แถมเจอร้านขู่อย่าแจ้งความ

11 ธ.ค. 65 16:12
สาวกรี๊ดลั่น หม้อไฟหม่าล่าระเบิดใส่หน้า แสบร้อนจนตาพร่า แถมเจอร้านขู่อย่าแจ้งความ

สาวกรี๊ดลั่น หม้อไฟหม่าล่าระเบิดใส่หน้า แสบร้อนจนตาพร่า แถมเจอร้านขู่อย่าแจ้งความ

เว็บไซต์ Oriental Daily รายงานกรณีเหตุระทึกภายในร้านหม่าล่าแห่งหนึ่งในฮ่องกง เมื่อจู่ๆ หม้อไฟเกิดระเบิด ทำให้น้ำซุปที่ทั้งร้อนและเผ็ดกระเด็นใส่ลูกค้าสาวที่นั่งทานอยู่ และสิ่งที่ทำให้ลูกค้าโกรธอย่างมากคือ ทางร้านยินดีจ่ายเพียงค่าทำความสะอาดเท่านั้น อีกทั้งยังขู่ว่าถ้าเธอเลือกที่จะโทรหาตำรวจ เธอจะต้องจ่ายค่าอาหารด้วย

ลูกค้ารายดังกล่าวนำเรื่องราวมาโพสต์ผ่านทางกลุ่มเฟสบุ๊ก 香港边炉关注组 โดยบอกว่าเธอไปทานอาหารที่ร้านหม้อไฟไต้หวัน ในย่านจิมซาจุ่ย ของฮ่องกง ในช่วงเที่ยงของวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา และสั่ง "หม่าล่าภูเขาไฟ" ซึ่งเป็นเมนูที่มีจำนวนจำกัดในแต่ละวัน โดยเมื่อนำอาหารมาเสิร์ฟ พนักงานจะเทแอลกอฮอล์ลงใน "ปล่องภูเขาไฟ" ที่ทำจากน้ำเต้า และจุดไฟให้เกิดเปลวไฟเป็นประกายๆ หลังจากไฟดับพนักงานก็เติมน้ำพริกเผ็ดๆ ลงไปในปล่องภูเขาไฟ

อย่างไรก็ดี หลัจากพนักงานเสิร์ฟเสร็จสิ้นทุกขึ้นตอนแล้ว เพียง 10 นาทีต่อมา หม้อไฟก็ระเบิดทันที โดยที่เธอยังไม่ทันได้กินหรือแม้แต่ใส่อาหารลงในหม้อ และน้ำซุปก็พุ่งสูงจนเตะเพดาน ส่วนตัวเธอเองก็เปื้อนน้ำซุบตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอได้แต่วิ่งกรีดร้องด้วยความตกใจ "น้ำซุปเผ็ดเปื้อนฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ฉันกลัวมากจนต้องวิ่งหนีไปที่ทางเดิน ตะโกนบอกว่าหม้อไฟระเบิด! มันกระเด็นเข้าดวงตาและใบหน้าของฉัน และทำให้ตาซ้ายมองเห็นพร่ามัว"

เธอยังบอกด้วยว่า หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว
MulticollaC
ผู้จัดการร้านอธิบายว่าไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และเขาจะชดเชยค่าทำความสะอาดให้ แต่ถ้าลูกค้าเลือกที่จะโทรหาตำรวจ เขาจะเรียกเก็บเงินค่าอาหารมื้อนี้ อย่างไรก็ดี เพื่อปกป้องสิทธิของเธอเอง เธอตัดสินใจโทรหาตำรวจ และเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล แพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นแผลไหม้ที่ใบหน้า แต่ร้านอาหารยังแสดงท่าทีนิ่งเฉย และไม่เคยขอโทษสักคำเดียว

หลังจากเรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา ชาวเน็ตหลายคนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการที่ไม่เหมาะสมของร้านอาหาร ทั้งการตอบสนองที่ไม่จริงใจตั้งแต่ต้น และหลังเกิดอุบัติเหตุที่น่ากลัวแล้วยังจะคิดเงินค่าอาหารจากลูกค้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมอย่างมาก

ต่อมา ลูกค้าสาวได้โพสต์ข้อความอัพเดทความคืบหน้าของเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่าได้รับการติดต่อจากร้านอาหาร เพื่อขอโทษและจัดการเรื่องชดเชยแล้ว แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นเพียงการเยียวยาภายใต้แรงกดดันจากความคิดเห็นของประชาชนเท่านั้น

ขณะที่ทางร้านค้าได้โพสต์ข้อความขอโทษบนเพจเฟซบุ๊ก โดยระบุว่าได้ติดต่อกับเหยื่อและชดใช้ค่าเสียหายแล้ว ซึ่งทางร้านได้หยุดจำหน่ายเมนูดังกล่าวแล้ว และจะฝึกอบรมพนักงานให้มากขึ้นในอนาคต และเพิ่มแนวทางสำหรับการรับมือกับเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้แน่ใจว่าเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก

ขอบคุณที่มา    SANOOK

โพสต์โดย : ปลายน้ำ