เปิดหลักฐานเงิน 5 ล้านในห้องอธิบดี เผยเรียกรับวิ่งเต้นโยกย้าย-เรียกเก็บรายเดือน
วันที่ 27 ธ.ค.65 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) แถลงสืบเนื่องจากสำนักงานป.ป.ช. รับแจ้งเบาะแส กรณีเจ้าหน้าที่ฐระดับสูง สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อแลกกับการไม่ถูกโยกย้ายตำแหน่ง
โดยมีพฤติการณ์กล่าวคือ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เรียกเก็บเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามทั่วประเทศ หากหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ที่ถูกเรียกเก็บไม่สามารถนำเงินมาจ่ายให้ได้ จะถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่งเดิม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในพื้นที่ห่างไกลจากภูมิลำเนา ทำให้มีการวิ่งเต้นกับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อไม่ให้ตนเองถูกโยกย้ายรายละประมาณ 200,000-300,000 บาท นอกจากนี้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ยังเรียกเก็บเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นรายเดือนเพิ่มเติมจากที่เรียกเก็บในอัตราดังกล่าวอีกด้วย
ต่อมาวันที่ 26 ธ.ค. เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับตำรวจ บก.ปปป. ดำเนินการวางแผนเข้าจับกุมอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยนัดหมายส่งมอบเงิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานไว้แล้ว 98,000 บาท ให้แก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ในวันที่ 27 ธ.ค.65 เวลา 09.00 น. ที่ห้องทำงานของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ
โดยในวันนี้ ตามเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. นำเงินสด 98,000 บาท ที่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วส่งมอบให้ผู้เสียหาย เพื่อนำไปมอบให้แก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ของทั้งสองหน่วยงานวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบ กระทั่งเมื่อส่งมอบเงินแก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯแล้ว
เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปยังห้องทำงานของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งเป็นจุดส่งมอบเงินทันที พร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมผู้ต้องหา โดยตรวจค้นพบเงินสด 98,000 บาท วางอยู่บนโต๊ะทำงาน นอกจากนี้ ยังพบของกลางเงินสดอีกเกือบ 5 ล้านบาท อยู่ในห้องดังกล่าว สอบถามผู้ต้องหาอ้างว่าตนเองไม่ทราบเรื่องที่มีการเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา
เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบเงินสด 98,000 บาทดังกล่าวต่อหน้าผู้ต้องหา พบว่าหมายเลขธนบัตรตรงกับหมายเลขธนบัตรที่ลงบันทึกประจำวันไว้ทุกฉบับ จึงแจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่าเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ เบื้องต้นในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำส่งสำนวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป
โพสต์โดย : ปลายน้ำ
