เปิดเบื้องลึกแผนจับ ‘อธิบดีกรมอุทยานฯ’ ใช้เงินสดถ่ายเอกสารเป็นหลักฐานมัดแน่น
กรณีเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) บุกเข้ามาในห้องประชุมกะทันหัน พร้อมได้เชิญตัว นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าไปในห้องเพื่อพูดคุย ท่ามกลางความงุนงงของผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ที่อยู่ในห้องประชุม และระหว่างรออวยพรปีใหม่เป็นอย่างมาก ซึ่งจากการตรวจค้นห้องทำงานของนายรัชฎา พบเงินสดประมาณ 5 ล้านบาท ตำรวจจึงทำการยึดไว้ตรวจสอบนั้น
คืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ ที่ทำการกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. ร่วมแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับการจับกุมอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ
นายนิวัติไชย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติฯ เข้ามาร้องเรียนกับป.ป.ช. ว่า นายรัชฎาเรียกรับเงินสินบนรายเดือนแลกกับการดำรงตำแหน่งเดิม หรือโยกย้ายไปในตำแหน่งที่ดีกว่า หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกโยกย้ายโดยไม่เป็นธรรม ทาง ป.ป.ช.จึงร่วมกับ ตำรวจ บก.ปปป. สืบสวนจนพบว่ามีมูลความจริง จึงวางแผนให้ผู้เสียหายนำเงินจำนวน 98,000 บาท ใส่ซองไปมอบให้นายรัชฎา เมื่อช่วงเวลา 09.10 น. ของวันนี้ ซึ่งเรามีหลักฐานเป็นซองเงินอยู่บนโต๊ะและคลิปบันทึกเสียงการเจรจารับเงินดังกล่าว ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมตัว พร้อมตรวจค้นภายห้องทำงานอย่างละเอียดกระทั่งพบเงินสดอีกจำนวน 4.9 ล้านบาทอยู่ในตู้เซฟ ทั้งนี้ เชื่อว่ามีข้าราชการที่ถูกบังคับให้ยอมส่งส่วยอีกหลายคน หลังจากนี้จะเร่งขยายผลตรวจสอบต่อไป
นายนิวัติไชย กล่าวต่อว่า ในส่วนการชี้มูลความผิดจะทันระยะเวลาการฝากขังหรือไม่นั้น อยากชี้แจงว่า พนักงานสอบสวนมีอำนาจทำการสอบสวนตามกฎหมาย ป.วิอาญา แต่ถ้าปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดโดยการทุจริตต่อหน้าที่ ก็จะเป็นอำนาจของคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เมื่อมีผู้มาร้องทุกข์ กล่าวโทษพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนว่าเข้าองค์ประกอบการกระทำความผิด และส่งสำนวนไปยัง ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน แต่ตรงนี้เป็นเพียงขั้นตอนที่เร่งรัด เพราะว่าอาจจะมีการขยายผลไปอีกก็ได้ ส่วนกรณีการประกันตัวก็จะอยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวนว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ถ้าไม่อนุญาตให้ประกันตัวต้องส่งสำนวนพร้อมตัวให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ ส่วนอำนาจการควบคุมตัวก็จะอยู่ที่ ป.ป.ช. เรื่องนี้ถ้าพยานหลักฐานชัดจะสามารถเร่งดำเนินการได้ภายใต้กรอบระยะเวลาฝากขัง
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้อง นายรัชฎา ให้การภาคเสธว่า รับซองมาจริงแต่ไม่ทราบว่าภายในมีเงินสด เพราะยังไม่ได้แกะซอง ส่วนเงินในตู้เซฟยังไม่ได้ชี้แจงถึงที่มา ซึ่งตำรวจจะขยายผลตรวจสอบ โดยมั่นใจว่ามีหลักฐานเอาผิดได้แน่นอน
ขณะที่ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. ฝากถึงข้าราชการทุกคนอย่าไปทนและยอมปฏิบัติตามผู้บังคับบัญชาที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ข้าราชการที่ออกมาร้องเรียนเรื่องนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดี หากพบหรือทราบเบาะแสสามารถร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นต่อไป.
ขอบคุณที่มา ข่าวเดลินิวส์
โพสต์โดย : ปลายน้ำ
