Social :



โคตรเถื่อน! หนุ่มแค้นถูกไล่พ้นงานต่างหมู่บ้าน ดักฟันคนไม่รู้จัก สาหัสเป็นตายเท่ากัน

30 ธ.ค. 65 17:12
โคตรเถื่อน! หนุ่มแค้นถูกไล่พ้นงานต่างหมู่บ้าน ดักฟันคนไม่รู้จัก สาหัสเป็นตายเท่ากัน

โคตรเถื่อน! หนุ่มแค้นถูกไล่พ้นงานต่างหมู่บ้าน ดักฟันคนไม่รู้จัก สาหัสเป็นตายเท่ากัน

วันที่ 30 ธ.ค. 2565 พ.ต.อ.อัษฎไณย ป้องกัน ผกก.สภ.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมชุดสืบสวน สภ.คูเมือง ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 3 ตามไปควบคุมตัวนายจิรายุ หรือโด่ง ติดตารัมย์ อายุ 24 ปี ชาวบ้าน ม.11 ต.บ้านแพ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ มาสอบสวน


หลังจากมีพยานเห็นชัดเจนว่า เป็นหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 5-6 คน ใช้อาวุธมีดรุมฟัน นายกิติพงษ์ เทินไพร หรือโซ่ อายุ 32 ปี ชาวบ้าน ม.6 บ้านหนองนางดำ ต.บ้านแพ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา

จากการสอบถามนายบรรลุ คำอุด อายุ 49 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.6 บ้านหนองนางดำ ต.บ้านแพ อ.คูเมือง ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาวัยรุ่นหมู่บ้านหนองนางดำกับวัยรุ่นบ้านแพ ซึ่งห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร ไม่ค่อยถูกกัน มักจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ ทางผู้นำจึงตกลงกันว่า จะไม่อนุญาตให้วัยรุ่นต่างหมู่บ้านไปเที่ยวงานที่อีกหมู่บ้านหนึ่งจัดขึ้น เพราะเกรงจะสร้างความวุ่นวาย และสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านที่ไปเที่ยวงาน


นายบรรลุ กล่าวต่อว่า เมื่อคืนวันที่ 29 ธ.ค. วัดบ้านหนองนางดำ มีการจัดงานฉลองกุฏิ มีมหรสพมาแสดงหลายรายการ กลุ่มตำรวจหมู่บ้านจึงคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย แต่ปรากฏว่ามีนายโด่ง คนบ้านแพ แอบเข้าไปเที่ยวในงาน เมื่อคณะกรรมการเห็นได้บอกให้กลับบ้านเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย ซึ่งนายโด่งก็ปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่ และขี่รถจักรยานยนต์กลับไป

นายบรรลุ กล่าวอีกว่า ก่อนงานเลิก ตนได้อำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณหน้าวัด ตอนนั้นยังไม่มีชาวบ้านเดินออกมา มีเพียงรถจักรยานยนต์
MulticollaC
1-2 คันเท่านั้น ต่อมานายโซ่ ผู้บาดเจ็บ เดินออกมาจากหน้าวัดเป็นคนแรก และยกมือไหว้ตน แล้วเดินออกจากหน้าวัดไปประมาณ 50 เมตร มีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มาประมาณ 3 คัน กรูเข้ามาใช้มีดรุมฟันนายโซ่แบบไม่ยั้ง จนนายโซ่นอนแน่นิ่งเลือดอาบอยู่กับพื้น จากนั้นคนร้ายได้ทิ้งมีดไว้แล้วรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป


ด้านนายอนุชา ติดตารัมย์ อายุ 52 ปี พ่อเลี้ยงนายโซ่ ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตนเลี้ยงลูกคนนี้มา 16 ปี ช่วงหลังไปทำงานอยู่ จ.ชุมพร ไม่ค่อยได้กลับบ้าน โดยเฉพาะช่วงโรคโควิด-19 ระบาด ปีนี้จึงพาลูกกลับบ้านที่ อ.คูเมือง เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ลูกชายตั้งใจจะมาเคานต์ดาวน์ที่บ้านเกิดในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ โดยเดินทางมาถึงบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา

นายอนุชา กล่าวต่อว่า วันเกิดเหตุลูกชายได้ขอเงิน 100 บาท บอกว่าจะไปเที่ยวงานวัด ตนก็ให้ไปสุดท้ายไปถูกทำร้ายแบบนี้ ตอนนี้อาการของลูกมีโอกาสน้อยมากที่จะรอดชีวิต เมื่อฟังคำอธิบายจากหมอ แค่ยื้อรอพ่อแท้ๆ กลับมา และอาจจะมีการถอดเครื่องช่วยหายใจ เพราะลูกถูกฟันตามศีรษะ หลัง และทั่วลำตัว

สอบถามนายจิรายุ หรือโด่ง ติดตารัมย์ อายุ 24 ปี ผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือจริง สาเหตุเพราะแค้นที่ถูกไล่ออกมาจากงาน จึงโทรตามเพื่อนมาดักทำร้ายใครก็ได้ที่ออกจากงานมา ประกอบกับเมาสุราจึงก่อเหตุโดยไม่ยั้งคิด ตอนนี้ทำได้แค่ขอโทษญาติผู้บาดเจ็บเท่านั้น

เจ้าหน้าที่นำตัวนายจิรายุส่ง พ.ต.ท.ชนะมาร เต็มปักษี สารวัตร(สอบสวน) สภ.คูเมือง เพื่อดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น, พกพาอาวุธมีด เอาไว้ก่อน ซึ่งต้องรอดูอาการของผู้บาดเจ็บ จึงจะแจ้งข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติม ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุคนอื่นจะเรียกตัวมาสอบสวนต่อไป หากมีคนร่วมด้วยก็จะแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขอบคุณที่มา     ข่าวสด

โพสต์โดย : ปลายน้ำ