Social :



ลากไส้ส่วยกรมอุทยานฯ พื้นที่เกรด A รีดแบงก์พัน 5 กิโลกรัม!

06 ม.ค. 66 18:01
ลากไส้ส่วยกรมอุทยานฯ พื้นที่เกรด A รีดแบงก์พัน 5 กิโลกรัม!

ลากไส้ส่วยกรมอุทยานฯ พื้นที่เกรด A รีดแบงก์พัน 5 กิโลกรัม!

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ความคืบหน้าภายหลังกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) บุกจับ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และตั้งข้อกล่าวหา ทุจริตเรียกรับสินบนโยกย้ายตำแหน่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด หลังบุกห้องทำงานพบเงินในซองรวมกว่า 5 ล้านบาท และมีข้อร้องเรียนกรณีการทุจริตในกรมอุทยานฯ ตามมาเรื่อยๆ นั้น

ล่าสุดแหล่งข่าว เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งเคยอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติมาก่อน ยืนยันว่า เรื่องการเรียกเก็บเงินสำหรับการโยกย้ายในกลุ่มหัวหน้าอุทยานแห่งชาตินั้นมีจริง 100% โดยมี 2 ประเภท คือ ประเภทที่ 1 คือ หากอยากไปอยู่อุทยานเกรดเอ โดยเฉพาะอุทยานทางทะเล ไม่ว่าจะเป็น อุทยานแห่งชาติสิมิลัน อุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หม่เกาะพีพี อ่าวพังงา เขาสก หาดเจ้าไหม ตะรุเตา ธารโบกขรณี ล้วนแล้วแต่ต้องจ่ายเงินทั้งสิ้น เริ่มต้นด้วยธนบัตรใบละ 1,000 บาท 5 กิโลกรัม หรือ 5 ล้านบาท

ส่วนประเภทที่ 2 คือ หากอยู่อุทยานเหล่านี้หรืออุทยานเกรดเออยู่แล้ว และยังอยากอยู่ต่อไป ต้องจ่ายในราคาเดียวกัน หากใครไม่จ่ายก็จะต้องถูกย้ายทันที ทั้งนี้ ไม่รวมกับที่จะต้องส่งเงินรายเดือนอีกต่างหาก ซึ่งใครไม่จ่ายจะถูกย้ายทันที ดังเช่นที่ผ่านมา มีการย้ายในส่วนของอุทยานทางทะเลและอุทยานเกรดเอ จำนวนมาก ขณะที่บางคนทนกับระบบเช่นนี้ไม่ไหว ถึงกับลาออกจากราชการไปเลยก็มี

เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ว่าเงินเหล่านี้ ถูกรวบรวมไปให้ใครที่ไหน แหล่งข่าวกล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่า รวบรวมไปไว้ที่ไหนนักหนา รู้แต่ว่าเป็นเงินจำนวนมาก และจะมีคนคอยเก็บรวบรวมโดยคนๆ นี้ จะเป็นผู้ประสานเหมือนนกต่อ คอยติดต่อถามไปยังอุทยานต่างๆ ว่า อยากอยู่ต่อหรือไม่ หัวหน้าอุทยานฯ หลายแห่งไม่ยอมจ่ายเพราะไม่คิดว่าระบบจะแย่แบบนี้ ได้ปรากฏว่าถูกย้ายทันที เป็นเหมือนเชือดไก่ให้ลิงดู ต่อมาใครไม่อยากย้าย หากหาเงินมาได้ก็จ่าย หาเงินมาให้ไม่ได้หรือหาไม่ทัน ก็ถูกย้ายกันหมด

แหล่งข่าวอีกคน ซึ่งขณะนี้ถูกย้ายไปอยู่ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับกรมอุทยานแห่งชาติฯ แล้ว เปิดเผยว่า หากไปตรวจสอบกับสหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ ที่รับฝากเงินหรือปล่อยสินเชื่อเจ้าหน้าที่ทั้งในส่วนกรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ เวลานี้จะพบว่า มีข้าราชการ
Lif
โดยเฉพาะระดับ 7 และระดับ 8 จะทำเรื่องขอกู้เงินสหกรณ์จำนวนมาก ซึ่งข้าราชการระดับนี้ มีสิทธิกู้เงินได้คนละไม่เกิน 2.5 ล้านบาท ซึ่งตนทราบมาว่า กว่า 80% ของคนที่มากู้เงินในระดับ 6 แสนขึ้นไปนั้น ล้วนแล้วแต่เอาเงินไปจ่ายเพื่อการวิ่งเต้นโยกย้ายทั้งสิ้น

“อย่างเช่น ที่มีข่าวออกมาว่า จะเลื่อนการสอบสัมภาษณ์เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโสหรือข้าราชการระดับ 8 นั้น ทราบว่า หลายคนแทบจะร้องไห้หรือไม่ก็ร้องไห้ไปแล้ว เพราะกู้เงินสหกรณ์มาจ่ายมัดจำไปแล้ว คนละ 6 แสนบาท จะจ่าย 9 แสน หลังจากประกาศผลสอบสัมภาษณ์ และได้ขึ้นเป็นอาวุโส หรือ ระดับ 8 ไปแล้ว เพราะถึงขณะนี้แล้ว ไม่รู้จะไปเอาเงินคืนที่ไหนกับใคร มันเป็นแบบนี้กันจริงๆ กรมอุทยานแห่งชาติฯ” แหล่งข่าวกล่าว

ส่วนกรณีล่าสุด มีการร้องเรียนในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่โปร่งใสในช่วงที่นายรัชฎา เข้ามาเป็นอธิบดี โดยมีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ คนเดียว รับผิดชอบในหลายภารกิจตั้งแต่ 3-5 ตำแหน่งในหน่วยงานต่างๆ พร้อมทั้งต้องมีการต่ออายุตำแหน่งในทุกปีนั้น แหล่งข่าวกรมอุทยานฯ เปิดเผยว่า การแต่งตั้งข้าราชการคนเดียวให้รับผิดชอบในหลายภารกิจมี 2 เหตุผล เหตุผลแรกและเป็นเหตุผลหลัก คือ บางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ มีคนไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจ เจ้าหน้าที่หนึ่งคนจึงต้องควบหลายตำแหน่ง

ส่วนอีกเหตุผลคือ เป็นตัวเจ้าหน้าที่เองที่ได้อยากได้งานเยอะๆ โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีงบประมาณมาดำเนินโครงการต่างๆ จำนวนมาก เช่น ส่วนประสานงานโครงการพระราชดำริ และกิจการพิเศษ ส่วนต้นน้ำ ส่วนไฟป่า เป็นต้น ซึ่งมีเรื่องเงินเป็นเหตุผลแฝง โดยจะพบหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่หนึ่งคนรับหลายหน้าที่ในหลายหน่วยงาน จึงน่าเป็นห่วงในเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานให้มีประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญกรณีเหล่านี้ มีในทุกยุค ไม่ใช่เฉพาะในยุคที่นายรัชฎา เป็นอธิบดีเท่านั้น

ขอบคุณที่มา   ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ