Social :



คนนี้เอง! ‘ทนายษิทรา’ ไลฟ์สดเปิดคำใบ้ชัดแล้ว อดีตรองนายกฯ ชอบตีกอล์ฟ เป็นชู้เมียชาวบ้าน

09 ม.ค. 66 12:01
คนนี้เอง! ‘ทนายษิทรา’ ไลฟ์สดเปิดคำใบ้ชัดแล้ว อดีตรองนายกฯ ชอบตีกอล์ฟ เป็นชู้เมียชาวบ้าน

คนนี้เอง! ‘ทนายษิทรา’ ไลฟ์สดเปิดคำใบ้ชัดแล้ว อดีตรองนายกฯ ชอบตีกอล์ฟ เป็นชู้เมียชาวบ้าน

จากกรณีที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หรือ “ทนายตั้ม” ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เล่าเรื่องราวที่ผู้เสียหายขอคำปรึกษาทางกฎหมายในการฟ้องชู้ หลังพบภรรยาไปถ่ายภาพเปลือยคู่อดีตรองนายกรัฐมนตรี จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดพร้อมกับตั้งคำถามว่าอดีตรองนายกฯ คนดังกล่าวคือใคร..

ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่สำนักงาน Sittra Law Firm ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน กล่าวถึงกรณีนี้ว่า สืบเนื่องจากนาย ก. มาปรึกษาผมว่าภรรยาทำงานอยู่โรงแรม 5 ดาว แห่งหนึ่ง มีท่าทีเปลี่ยนไปจึงสังเกตพฤติกรรม เปิดโทรศัพท์ดูเจอข้อความสนทนาทางไลน์กับผู้ชายคนหนึ่ง และยังพบภาพเปลือยของทั้งสองคนถ่ายเก็บบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือ เหตุเกิดช่วงตุลาคมปี 2565 ต่อมานายกอ ได้สอบถามตนว่าจะทำอะไรได้บ้างรู้สึกเสียใจกับภรรยา อีกทั้งผู้ชายที่มีสัมพันธ์กับภรรยาเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรีอักษรย่อ “ย.ยักษ์” คนหนึ่ง แต่ภรรยาไม่ยอมหย่า จึงให้คำปรึกษาว่ากรณีนี้ไม่ใช่คดีอาญาแต่สามารถฟ้องแพ่งเรื่องชู้สาวเรียกค่าทดแทนได้ทั้งภรรยาและชู้ ซึ่งได้มีการฟ้องศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง คดีแพ่งเรียกค่าเสียหายไปเมื่อเดือน ธ.ค. 2565 และจะมีการนัดไต่สวนเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ 

นายษิทรา กล่าวอีกว่า ระหว่างที่สามีของผู้หญิงทราบเรื่อง อดีตรองนายกรัฐมนตรีจึงพยายามตีตัวออกห่าง พร้อมฟ้องภรรยาของผู้เสียหายว่าหลอกลวงเงินให้คืนทรัพย์สิน​ต่างๆ และทั้ง 3 คนได้นัดเจรจาคดีความนี้กันที่ สน.บางยี่ขัน โดยนายกอ อ้างว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาในโรงพัก มีพฤติกรรมข่มขู่ที่โรงพักและตามมาคุกคามถึงที่บ้าน ผู้เสียหายจึงกังวลในเรื่องของความปลอดภัย นำข้อมูลนี้มาปรึกษา เพื่อให้เปิดเผยเรื่องราวนี้ต่อสื่อมวลชนออกสู่สาธารณะเพื่อป้องกันตัวหากเป็นอะไร และอยากให้ประชาชนได้รู้พฤติกรรมของนักการเมืองใหญ่คนนี้

นายษิทรา กล่าวด้วยว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรีอักษรย่อ
Lif
“ย.ยักษ์” บุคคลดังกล่าวเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ที่ชอบกีฬากอล์ฟ แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย เพราะออกจากพรรคตั้งแต่ปี 2561 ทั้งนี้ จะเคยมีพฤติกรรมลักษณะชู้สาวกับบุคคลอื่นอีกหรือไม่ คงไม่สามารถตอบได้ แต่กับลูกความตัวเอง ถือว่ามีหลักฐานข้อความแชต รูปภาพครบถ้วนชัดเจน ดังนั้นการที่บุคคลที่รู้ตัวเองอยู่แล้ว ออกมาปฏิเสธ ถือว่าไม่มีความรับผิดชอบ

นายษิทรา กล่าวอีกว่า บุคคลนี้ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ปี 2561 รวม 5 ปีแล้ว ดังนั้นเหตุที่เกิดขึ้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่ถือเป็นคดีความส่วนตัว ส่วนการที่ตนเองเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้วออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ ยืนยันว่าการที่ออกมาพูดเรื่องนี้คน ๆ นี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย เพราะอดีตรองนายกฯ “ย.ยักษ์” เคยเป็นสมาชิกพรรคเมื่อปี 2551 และไม่ได้อยู่เพื่อไทยตั้งแต่ปี 2561 ดังนั้งเรื่องเกิดขึ้นจึงไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะเกิดหลังจากบุคคลดังกล่าวได้ออกจากพรรคเพื่อไทยไป ทั้งนี้ จะเข้าไปยื่นหนังสือข้อมูลหลักฐานถึง รอง ผบ.ตร.อีกครั้ง ภายในอาทิตย์นี้

ก่อนจะทิ้งท้าย ทนายษิทราได้ขอโทษสื่อ ที่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์เดี่ยวให้ช่องใดช่องหนึ่ง แต่หลังจากนี้ถ้าพี่นักข่าวโทรฯมาขอข้อมูลเพิ่มเติม ตนยินดีให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม..

ขอบคุณที่มา       ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ