พบจ.ม.พระตัดพ้อหึงโหด ทุบสาว17ดีกรีนางนพมาศ โวยเปย์ทุกอย่างแต่มือไม่ได้จับ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 ม.ค. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ หลักประโคน รอง ผกก.สส.สภ.พิบูลมังสาหาร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนในสังกัด เข้าเก็บหลักฐานโดยรายละเอียดยังจุดเกิดเหตุ และหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องทางคดี เพื่อหาเบาะแสติดตามจับกุมตัวพระอุทิศ ที่ยังหลบหนี ขณะเดียวกัน นายจันโท ทองผาย อดีต ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านนาแก เปิดเผยว่า ทั้งพระและเด็ก 17 ต่างก็เป็นญาติกัน ก่อนเกิดเหตุไม่พบความผิดปกติอะไร เช่นเดียวกับ ยายของ น.ส.เมย์ ที่ระบุว่านาน ๆ ครั้งหลานสาวจะไปพบพระที่วัด ซึ่งทั้งสองต่างก็เป็นญาติพี่น้องกัน วัดเกิดเหตุฝ่ายพระโทรศัพท์เรียกหลานสาวไปเอาเงินช่วยค่าเดินทาง เพราะทราบว่าหลานสาวจะไปทัศนศึกษาต่างจังหวัด โดยออกจากบ้านไปเวลาประมาณ 18.00 น. จากนั้นเวลา 19.00 น. ก็ยังไม่กลับมาบ้าน ตนเห็นจึงออกไปตามที่วัด ไม่พบ จยย. ของหลานสาว อีกทั้งกุฏิล็อกประตูไว้ ด้วยความสงสัยจึงติดต่อพระอีกรูปให้ช่วยเปิดประตูเข้าไปดูด้านใน จึงเจอหลานสาวในสภาพนั่งโงนเงน ร่างอาบไปด้วยเลือด

“…เชื่อว่าฝ่ายพระอาจจะหลงรักหลานสาวจริง เพราะหลานมีหน้าตาสวยงาม เคยเป็นนางนพมาศ และดรัมเมเยอร์โรงเรียน ก่อนหน้าหลานได้โพสต์รูปที่ไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วมีผู้ชายนั่งอยู่ข้าง ๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าฝ่ายพระน่าจะเกิดความหึงหวง โทรฯ มาอาละวาดด่าทอว่า เงินที่ปู่ให้ เอาไปเที่ยวเล่นหรืออย่างไร แล้วหาเรื่องกับหลานสาวมาจนเกิดเรื่อง…” ยายของ น.ส.เมย์ กล่าว

ขณะที่ นางหนูแก้ว เหมภาค อายุ 75 ปี แม่ของพระอุทิศ กล่าวว่า อยากให้ลูกชายมอบตัวกับตำรวจ โตแล้ว บวชแล้ว ไม่ควรทำกรรมชั่ว ควรทำแต่ความดี เมื่อเรื่องเกิดขึ้นก็ต้องไปรับกรรม อย่าไปสร้างกรรมอีก และอย่าทำอะไรให้ขายหน้าพ่อแม่มากกว่านี้ ควรกลับมารับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองก่อเรื่องเอาไว้

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากฝ่ายสืบสวนว่า เจ้าหน้าที่พบจดหมายในกุฏิที่เกิดเหตุหลายฉบับ โดยหนึ่งในนั้นพบฉบับหนึ่งระบุเอาไว้ว่า “…ค่าเล่าเรียน ค่าทำฟัน และซื้อสร้อยแหวนให้ แม้แต่มือก็ไม่ได้จับ ไม่เห็นความดี…” ซึ่งเป็นหลักฐานมัดตัวว่า ฝ่ายพระน่าจะหึงหวงฝ่ายเด็กสาวจริง ทำให้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายกันขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นที่ฝ่ายพระอาจพยายามข่มขืนเด็กสาวแต่ไม่สำเร็จ เพราะอีกฝ่ายต่อสู้ จึงใช้ค้อนทำร่ายร่างกายเพื่อฆ่าปิดปากอีกด้วย.