Social :



ทนายดังรุดช่วยครอบครัวม.3 ถูกหลอกลงทุนจนคิดสั้น ลั่น! ต้องไม่ตายฟรี

10 ม.ค. 66 16:01
ทนายดังรุดช่วยครอบครัวม.3 ถูกหลอกลงทุนจนคิดสั้น ลั่น! ต้องไม่ตายฟรี

ทนายดังรุดช่วยครอบครัวม.3 ถูกหลอกลงทุนจนคิดสั้น ลั่น! ต้องไม่ตายฟรี

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. จากกรณีเยาวชนชายวัย 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ผูกคอเสียชีวิตในป่า ซอยติวานนท์-ปากเกร็ด 34 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมทิ้งจดหมายลาตายและข้อความ ขอโทษพ่อแม่ที่แอบเอาเงินแม่ไปลงทุนกับเพจแชร์ลูกโซ่ สุดท้ายถูกโกงจนคิดสั้น และขอให้เรื่องของตนเองเป็นอุทาหรณ์กับทุกคน เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุด ทนายโป้ง หรือ นายเกียรติคุณ ต้นยาง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา ได้เดินทางไปที่ศาลา 2 วัดบางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อไว้อาลัยผู้เสียชีวิต และพบกับแม่พร้อมพี่สาวหลังญาติได้ร้องขอให้ช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและกลัวว่าคดีจะล่าช้า

แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า มีตำรวจสภ.ปากเกร็ด และตำรวจไซเบอร์ติดต่อมาเมื่อคืนและมารับตัวไปสอบสวนที่สำนักงานตำรวจไซเบอร์ จากที่ฟังตำรวจมาตนเห็นความตั้งใจ จากสื่อที่ออกข่าวคิดว่าต้องช่วยตนกับครอบครัวได้ ตนคิดว่าน้องต้องดีใจที่มีคนช่วยขนาดนี้ คิดว่าต้องจับกลุ่มมิจฉาชีพได้ ตอนนี้มีทนายโป้งเข้ามาช่วยอีกคนในเรื่องคดีเนื่องจากตนไม่มีความรู้ ตนอยากบอกให้น้องไม่ต้องห่วง ต่อให้ตนไม่รู้อะไรมากก็จะช่วยน้องให้มากที่สุด จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจับให้ได้และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด


Lif
ทนายโป้ง กล่าวว่า กรณีแบบนี้ไม่อยากให้น้องตายฟรี ตนจะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายให้กับครอบครัว ตนจะให้ใช้สิทธิ์ผู้เสียหายในการติดตามคดีต่อไป และแจ้งความที่สภ.ปากเกร็ด รวมถึงแจ้งตำรวจไซเบอร์ไว้แล้ว ส่วนพี่สาวได้ให้การเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนและตำรวจไซเบอร์ไว้แล้ว และเมื่อคืนตำรวจสภ.ปากเกร็ดได้มีการติดตามเอาข้อมูลเพิ่มเติม ภาพถ่ายบัญชีม้ามาให้ทางครอบครัวผู้เสียหายดู ซึ่งพวกเขาก็ไม่รู้จัก อีกบัญชีที่เป็นบัญชีผู้หญิงยังถอดข้อมูลไม่ออกว่าเป็นบัญชีอะไร พนักงานสอบสวนต้องไปสืบจากสเตทเม้นท์กับธนาคารและติดตามมาสอบสวนว่ารู้เห็นเป็นใจหรือรับเปิดบัญชีม้า หรือร่วมกันฉ้อโกงทำให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้น ถึงขั้นน้องต้องเสียชีวิต เหตุเพราะน้องเสียใจที่หลงเชื่อมิจฉาชีพ

“ทางน้องผู้เสียชีวิตก็ถามไปด้วยความซื่อกับทางมิจฉาชีพว่าทางนั้นโกงมั้ย ซึ่งทางมิจฉาชีพก็ว่าทางน้องไปกล่าวหาว่าโกง เอากฎหมายมาขู่ ซึ่งมิจฉาชีพจะมาในรูปแบบนี้ว่าเขาสุจริต ถ้าไปทำอะไรเขาจะแจ้งความกลับ ต้องฝากพ่อแม่ผู้ปกครอง ประชาชน รูปแบบมิจฉาชีพสมัยนี้ไม่ได้มาแค่รูปแบบคอลเซ็นเตอร์แล้ว มาแยบยลกว่าเดิม สิ่งสำคัญอย่าไปรับข้อมูลพวกนี้ เน้นว่าอย่าโอน และอย่าไปรับแอพฯ พวกนี้เข้ามา บางครั้งเป็นสแปมพอกดแล้วล็อกหน้าจอดึงเงินไปหมดบัญชี” ทนายโป้ง กล่าว

ขอบคุณที่มา   ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ