Social :



‘ชูวิทย์’ เปิดวงจรปิดผับจินหลิงแฉต่อ เผย ‘นายกฯ’ รับปากเร่งคดี ‘ตู้ห่าว’

10 ม.ค. 66 18:01
‘ชูวิทย์’ เปิดวงจรปิดผับจินหลิงแฉต่อ เผย ‘นายกฯ’ รับปากเร่งคดี ‘ตู้ห่าว’

‘ชูวิทย์’ เปิดวงจรปิดผับจินหลิงแฉต่อ เผย ‘นายกฯ’ รับปากเร่งคดี ‘ตู้ห่าว’

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่โรงแรม เดวิส บางกอก ซอยสุขุมวิท 24 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แถลงกรณี วานนี้ (9 ม.ค.) หลังเดินทางเข้าให้การเพิ่มเติมต่อจเรตำรวจ และมีคำสั่งทางปกครองต่อ ผบช.น. ในคดี นายชัยณัฐ กรณ์ชยานันท์ หรือ ตู้ห่าว และเข้าพูดคุยกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายในงานเปิดตัวพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ถึงเรื่องที่พบชื่อหลานของนายกฯ มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นกรรมการบริษัทเช่ายานยนต์กับธุรกิจของนายตู้ห่าว ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดเครือข่ายผับจินหลิง

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ไทม์ไลน์ทั้งหมด ครั้งแรกที่ตนออกมาเปิดเผยเรื่องนี้เมื่อวันที่ 13 ก.ค.65 กระทั่งวันที่ 26 ต.ค.65 มีเหตุการณ์ผับจินหลิงเกิดขึ้น จากนั้นตนก็ได้ออกพูดถึง 5 เสือจีนเทา และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หรือ บิ๊กโจ๊ก ก็มาทำคดี และต่อมาก็ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ก็มาทำการขยายผลจับเดวิส ค้นคอนโดฯ ยึดเงินสด ต่อมา 17 พ.ย.65 ตนออกมาเปิดเผยเรื่องเครื่องบิน และ 21 พ.ย. ตนเดินทางไปกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้รับเป็นคดีพิเศษ เพระตำรวจไม่ยอมออกหมายจับนายตู้ห่าว ในวันถัดมา 22 พ.ย. หมายจับตู้ห่าวออก กระทั่งวันถัดมานายตู้ห่าวมอบตัว ต่อมา 9 ธ.ค. ตนไปยื่นสำนักงานอัยการสูงสุด อสส. แต่ทาง อสส. ไม่ยอมเจอตน แต่ก็ได้ยื่นหนังสือขอให้รับเป็นคดีนอกราชอาณาจักรและองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติไว้ที่ รอง อสส. แทน และ 13 ธ.ค. ทาง บช.น.ยื่น อสส.ให้รับเป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติ จนวันถัดไป อสส. รับคดีตู้ห่าวเป็นคดีสำคัญเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ จะสังเกตได้ว่าทำงานตามหลังตนตลอด คดีนี้อยากให้ทราบว่าอัยการเป็นที่ปรึกษา แต่ยังไม่สั่งคดีว่าเป็นอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ และสำนวนอยู่ที่ตำรวจ เพราะอัยการยังไม่สั่งคดี


นอกจากนี้ นายชูวิทย์ได้นำคลิปกล้องวงจรปิดภายในผับจินหลิงมาเปิดต่อสื่อมวลชน ซึ่งปรากฎภาพพนักงานไม่น้อยกว่า 10 คน และบุคคลอื่นๆ เดินไปมาจำนวนมาก แต่ปัจจุบันปรากฎว่า จำนวนพยานในสำนวนคดี เหลือพนักงานเสริฟเพียง 2 คน ไม่มีพยานที่เป็นหญิงขายบริการ หรือบุคคลอื่นๆ ในที่เกิดเหตุอีก ส่วนคลิปที่ 2 เป็นคลิปกล้องวงจรปิดบริเวณประตูทางเข้าออกผับจินหลิง มีพนักงานคอยตรวจค้นร่างกาย ซึ่งจากภาพจะละเว้นการค้นตัวของหลานชายตู้ห่าว แม้จะเห็นว่าถือซองสีขาว ที่ชูวิทย์ตั้งข้อสงสัยว่าซองดังกล่าวเป็นซองที่บรรจุยาเสพติด แต่จะตรวจอย่างละเอียดกับนักท่องเที่ยว ซึ่งหนึ่งในนั้นพบยาเสพติดที่ตัว ในคลิปพนักงานที่ตรวจได้เรียกผู้ดูแลผับมาพูดคุย ก่อนจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปในผับได้โดยไม่ดำเนินการอะไร

Lif
ต่อมานาย ชูวิทย์ เปิดแผนผังขบวนการผับจินหลิงที่มี นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว เป็นหัวหน้าขบวนการสูงสุด มีผู้ร่วมขบวนการรายสำคัญแยกย่อยออกมารวม 10 คน มีการแบ่งหน้าที่กันดูแลทั้งเรื่องเงิน และเรื่องยาเสพติด

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ย้อนกลับไปวันที่ได้รับประทานอาหารร่วมกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สอบถามว่า จากนี้จะดำเนินการกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองต่อไปอย่างไร กระบวนการจะมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมหรือไม่ รวมทั้งถาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ด้วยว่า จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนจีนสีเทาอย่างไร

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ต้นเหตุของเรื่องนี้เป็นการร่วมกันทุจริตของสังคมไทย ที่มีนายตู้ห่าวเป็นเพียงตัวการ และมีตำรวจเป็นผู้สนับสนุน หน่วยงานรัฐ นักการเมือง ตนตั้งใจมาชำแหละเครือข่ายทุจริตคอรัปชั่น ตนจึงจำเป็นต้องทำบางสิ่งบางอย่าง เพื่อไปสู่เป้าหมาย หากใครจะโทษตนเองก็ยอมรับ


ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น นายชูวิทย์ กล่าว่า การที่ตนเป็นคนธรรมดาเดินทางไปหานายกรัฐมนตรีนั้นถือว่ามาไกลมาก ตนได้บอกกับนายกฯ ว่า เรื่องจีนเทาเป็นเรื่องสำคัญและมีโอกาสได้พูดคุยกับนายกฯ เป็นเวลา 15 นาที ส่วนตัวได้บอกไปว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มีสถานะเป็นนัการเมืองฉะนั้นจะแสดงบทบาทแบบเดิมไม่ได้ ต้องเรียนรู้ที่จะรับฟังประชาชน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ แสดงทีท่ารับฟังและรับปากว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่ขอให้เข้าใจเงื่อนไขว่าทุกอย่างมีขั้นตอน โดยทางพล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้สั่งการให้ ผบ.ตร. ก็ไปตรวจสอบเรื่องรถทัวร์ดังกล่าวแล้ว

นอกจากนี้นาย ชูวิทย์ยังกล่าวถึงประเด็นการโยกย้ายตำรวจ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีผับจินหลิงโดยตรง ของพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ว่า ควรมีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ทุกระดับไปจนถึง 5 เสือโรงพัก ตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาในสถานีด้วย ไม่ใช่ย้ายแค่ระดับปฏิบัติการ

นายชูวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ประเด็นดังกล่าวควรที่จะถูกหยิบยกไปเป็นประเด็นหารือในรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เรื่องนี้ควรจะมีพื้นที่บ้าง ส่วนตัวยอมรับว่ามีคนคอยสนับสนุน ตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้ได้เคลื่อนไหวไปแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ และจะยังทำต่อไป

ขอบคุณที่มา   ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ