Social :



DSI ระบุ ‘นาย อ.’ โอนเงินเข้าบัญชี ‘นอท’ 53 ล้าน เป็น 1 ใน 7 ที่ออกหมายเรียก

14 ม.ค. 66 19:01
DSI ระบุ ‘นาย อ.’ โอนเงินเข้าบัญชี ‘นอท’ 53 ล้าน เป็น 1 ใน 7 ที่ออกหมายเรียก

DSI ระบุ ‘นาย อ.’ โอนเงินเข้าบัญชี ‘นอท’ 53 ล้าน เป็น 1 ใน 7 ที่ออกหมายเรียก

จากกรณีวานนี้ (13 ม.ค.) นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส ได้เดินทางเข้าให้การในฐานะพยานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เนื่องมาจากปรากฏพยานหลักฐาน เส้นทางการเงินว่าบัญชีธนาคารของนายพันธ์ธวัช ได้รับโอนเงินจำนวน 53 ล้านบาท จากขบวนการฟอกเงิน ซึ่งได้ถูกดีเอสไอโดยศูนย์คดียาเสพติด จับกุมไปเมื่อปี 2565 โดยนายพันธ์ธวัช ได้เข้าชี้แจงถึงความสัมพันธ์ ความเกี่ยวข้องต่างๆ ก่อนเตรียมนำข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับเส้นทางเงินกว่า 39 รายการ มูลค่าหลักพันล้านบาท เข้าให้การชี้แจงอีกครั้ง ภายในสองสัปดาห์ ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 14 ม.ค. มีรายงานจากคณะทำงานศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่า จากการสอบปากคำนายพันธ์ธวัช ในฐานะพยาน เบื้องต้นในรายละเอียดส่วนใหญ่ เป็นไปตามที่ข้อมูลที่นายพันธ์ธวัช แถลงต่อสื่อมวลชน โดยเฉพาะประเด็นระยะเวลาการรู้จักกัน ความเกี่ยวพันเชื่อมโยง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นที่นายพันธ์ธวัช ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า “นาย อ.” ได้รับมอบอำนาจจากตนเองให้ไปขึ้นเงินถูกรางวัล ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ตีเช็ค 2 ฉบับ เป็น 42 ล้าน/11 ล้าน) จากนั้นโอนเข้าบัญชีนายพันธ์ธวัชนั้น ในส่วนนี้เป็นสิทธิที่ทางนายพันธ์ธวัช ให้การ ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นไปตามที่ระบุไว้หรือไม่ ทางคณะทำงานศูนย์คดียาเสพติด อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า ในวันดังกล่าว นาย อ. มีการนำลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลแล้ว ไปขึ้นเงินจริงหรือไม่ ได้รับมอบอำนาจตามเอกสารที่นายพันธ์ธวัช เปิดเผยให้พนักงานสอบสวนดูหรือไม่ และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้มีการจ่ายแคชเชียร์เช็คให้ นาย อ. หรือไม่ มันจึงจะเป็นการตรวจสอบได้ว่า นาย อ. ได้นำเงินจากการขึ้นรางวัล ไปโอนเข้าบัญชีนายพันธ์ธวัช ตามคำให้การจริงหรือไม่ 

“แม้จะเป็นข้อเท็จจริง แต่คณะทำงานก็ต้องไปดูข้อกฎหมายว่า สิ่งที่กระทำนั้นผิดข้อกฎหมายใดหรือไม่ เพราะคดีที่เป็นมูลฐานคือคดีการฟอกเงิน และ นาย อ. ก็อยู่ในกลุ่มของขบวนการฟอกเงิน แล้วต้องไปดูเจตนาที่แท้จริงของการนำเงินไปขึ้นที่สลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย
Lif
เช่น การระบุว่ามีคนจะให้กู้เงิน แล้วเขาอยากขอดูระบบโดยการเป็นตัวแทนนำเอาสลากฯ จำนวนกว่า 50 ล้านบาท ไปขึ้นเงิน มันสมเหตุสมผลหรือไม่ และมีเจตนาเพียงเท่านี้จริงๆ หรือ” คณะทำงานศูนย์คดียาเสพติด ระบุ

สำหรับบุคคลที่โอนเงินจำนวน 53 ล้านบาท หรือ “นาย อ.” ตามที่นายพันธ์ธวัช ให้การ ได้มีพฤติกรรมโอนเงิน โดยแบ่งเป็นครั้งแรก 42 ล้านบาท และครั้งที่สอง 11 ล้านบาท เข้าบัญชีชื่อนายพันธ์ธวัช เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 64 ซึ่งบุคคลนี้ก็คือหนึ่งในคนที่ดีเอสไอได้ออกหมายเรียกในฐานะพยานไปก่อนหน้านี้ จำนวน 7 ราย และเตรียมเข้าให้การในวันที่ 19 ม.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอมีหลักฐานเรื่องเส้นทางเงินทั้งหมดอยู่แล้ว แต่เราจะให้ทุกคนได้ชี้แจงก่อน หากชี้แจงได้ก็จะเป็นพยาน แต่ถ้าชี้แจงไม่ได้ ก็จะถูกพิจารณาแจ้งข้อหา 

เมื่อถามถึงเส้นทางเงินเพิ่มเติม 39 รายการ ที่ดีเอสไอมอบหมายให้นายพันธ์ธวัช เข้าชี้แจงภายในสองสัปดาห์หลังจากนี้ คณะทำงานเผยว่า สำหรับเส้นเงินดังกล่าว เข้าบัญชีส่วนตัวของนายพันธ์ธวัช เท่านั้น แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอผลรายงานจากทางธนาคาร เพื่อจะตรวจสอบว่า แต่ละรายการมีบุคคลใดเป็นผู้ทำธุรกรรมบ้าง ซึ่งนายพันธ์ธวัช ก็จะต้องไปเตรียมเอกสารหลักฐานเพื่อเข้าชี้แจงด้วยว่า ในแต่ละบุคคลที่ทำธุรกรรมทางการเงินร่วมกัน มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ทั้งนี้ทางคณะทำงานมีข้อมูลทั้ง 39 เส้นทางการเงิน แต่ไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ รายละเอียดอยู่ในสำนวนของคณะทำงาน อีกทั้งต้องรอคำให้การชี้แจงจากนายพันธ์ธวัชก่อน

ขอบคุณที่มา     ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ