Social :



‘บิ๊กโจ๊ก’ ชี้ล่ามจีนยัน ตร.-DSI-ทหาร 15 นาย ตบทรัพย์ 4 ล้าน มีหลักฐานวงจรปิดชัด

16 ม.ค. 66 15:01
‘บิ๊กโจ๊ก’ ชี้ล่ามจีนยัน ตร.-DSI-ทหาร 15 นาย ตบทรัพย์ 4 ล้าน มีหลักฐานวงจรปิดชัด

‘บิ๊กโจ๊ก’ ชี้ล่ามจีนยัน ตร.-DSI-ทหาร 15 นาย ตบทรัพย์ 4 ล้าน มีหลักฐานวงจรปิดชัด

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม แถลงความคืบหน้าคดีเจ้าหน้าที่ DSI ร่วมกับตำรวจ 191 และทหาร เข้าตรวจค้นสถานกงสุลนาอูรู ย่านสาทร เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา พร้อมจับกุมชาวจีน 2 คน ก่อนเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ต้องหาทั้งสองเป็นเงินถึง 4,000,000 บาท แล้วมีการยักยอกของกลางในที่เกิดเหตุมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า จากการสืบสวนสอบสวนมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ทำให้เชื่อได้ว่าบุคคลที่เข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าวรวม 16 คน แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ DSI 5 นาย, ตำรวจ 9 นาย, ทหาร 1 นาย และล่ามชาวจีนอีก 1 คน กระทำผิดจริงตามที่ถูกร้องเรียน

ผู้การ 191 สั่งสอบวินัยร้ายแรง 9 นายตำรวจ ปมร่วม DSI ตบทรัพย์จีน 20 ล้าน

โดยล่าสุดพนักงานสอบสวนทุ่งมหาเมฆ ได้สรุปสำนวนพร้อมนำพยานหลักฐานบางส่วนขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 16 คนแล้ว โดยผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ 15 นาย ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ล่ามภาษาจีน ซึ่งถูกจับได้ในระหว่างหลบหนีข้ามด่านไปประเทศมาเลเซีย ได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่ามีการนัดให้เพื่อนของผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวจีน นำเงินจำนวน 4 ล้านบาท มามอบให้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุอีกว่า คดีนี้หากผลการสอบสวนไปถึงใคร ก็จะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น และเตรียมสรุปรายงานส่งให้ ผบ.ตร. ดำเนินการพิจารณาตำรวจทั้ง 9 นาย หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
Lif


อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีดังกล่าว ผู้ต้องหาแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก เป็นเจ้าหน้าที่ DSI กับตำรวจรวม 14 นาย ถูกดำเนินคดีในข้อหา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และข้อหาตามมาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงานเรียกหรือรับผลประโยชน์ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต และมาตรา 187 ทำลายวัตถุและของกลาง กลุ่มที่ 2 เป็นทหาร และล่ามภาษาจีน ถูกดำเนินคดีในข้อหาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานเรียกรับประโยชน์/สนับสนุนให้เจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ/และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเพื่อที่จะช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง

สำหรับบ้านหลังดังกล่าวไม่ใช่สถานกงสุลนาอูรูอย่างที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ แต่เป็นบ้านพักที่อดีตกงสุลนาอูรู เช่าพักอาศัยเอาไว้ แต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่อาศัยแล้ว ซึ่งต้องสืบสวนต่อไปว่ากลุ่มคนจีนเข้าพักอาศัยที่นี่ได้อย่างไร อดีตกงสุลมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งต้องยอมรับว่า คนจีนที่พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักดังกล่าวทั้ง 2 คน มีหมายแดงจากทางการจีน และเดินทางเข้าประเทศไทยได้อย่างไร


ด้าน นายวัลลภ ระบุว่า ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเจ้าหน้าที่ DSI ทั้ง 5 นาย กระทำผิดหรือไม่ ซึ่งทำควบคู่ไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินการด้านวินัยร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่ DSI ทั้ง 5 นายแล้ว ส่วนจะถึงขั้นให้ออกจากราชการไว้ก่อนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอธิบดี DSI ซึ่งตนในฐานะรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยืนยันจะไม่มีการให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดสร้างความเสื่อมเสียให้กับองค์กรอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้แถลงความคืบหน้าคดีนี้ต่อสื่อมวลชนและประชาชนทั้งประเทศ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้เห็นว่ากระทรวงยุติธรรมติดตามคดีนี้

ขอบคุณที่มา  ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ