อึ้งบัญชีผัวสาวอบต.อมเงินหลวง มีเงินเข้าวันละหมื่น 8 ปี เร่งสอบเอี่ยวโกง
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. จากกรณี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นางพรเพชร เขมวิรัตน์ รอง ผวจ.นครสวรรค์ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผอ.กองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 สำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมกันนำกำลังจับกุม น.ส.พัชรา อายุ 41 ปี เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชีชำนาญงาน เทศบาลตำบลลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ยักยอกเงินรัฐไป 15 ล้านบาท ดำเนินคดีข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างว่าทำเพียงคนเดียว โดยนำเงินไปใช้หนี้แอพเงินกู้ เพราะถูกข่มขู่ หลังนำเงินไปเล่นพนันออนไลน์
บุกจับสาวการเงินอบต.ลาดยาว อมเงินหลวง 15 ล้าน อ้างติดพนันหาเงินใช้หนี้
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากทาง ป.ป.ท. ได้การร้องเรียนให้ช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าว จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมสืบสวนสอบสวน จนพบ น.ส.พัชรา กระทำผิดจริง โดยมีการเบิกเงินออกไปทุกวัน วันละ 2-3 แสนบาท ส่วนจะมีใครเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ฝากเตือนไปถึงผู้ที่คิดกระทำผิดให้ตระหนักว่า อัตราโทษคดีลักษณะนี้ค่อนข้างสูง มีโทษจำคุก 5-20 ปี หรือตลอดชีวิต
สำหรับคำให้การของผู้ต้องหาที่อ้างว่า สาเหตุหลักมาจากติดพนันออนไลน์จนต้องกู้เงินนอกระบบจากแอพไปใช้หนี้และทำเพียงคนเดียวนั้น เป็นสิทธิของผู้ต้องหาจะให้การเช่นใด และแม้จะมีมูลความจริงอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียดว่า มีการโยกย้ายไปที่ใดบ้าง ขณะที่เรื่องเว็บพนันออนไลน์ และแอพเงินกู้ เบื้องต้นได้รายงาน ผบ.ตร. รับทราบแล้ว และจะมีการขยายผลต่อเนื่อง พร้อมกับประสาน ปปง. เข้ามาช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ
พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา
ผอ.ผู้กองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 สำนักงาน ป.ป.ท. กล่าวว่า การทุจริตของผู้ต้องหา แม้จะเป็นเพียงเจ้าหน้าที่รายเล็ก แต่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่ภาครัฐได้เป็นอย่างมาก แค่ภายในปีเดียวสามารถทุจริตเงินรัฐได้มากถึง 15 ล้านบาท และใช้เวลาเพียงแค่ 3 เดือน ยักยอกเงิน 13 ล้านบาท โดยใช้วิธีการทุจริตผ่านระบบ KTB Corporate Online ซึ่งเคสนี้เป็นเคสพิเศษ เป็นเคสแรกที่จับกุมได้ หลังจากนี้จะใช้เคสนี้เป็นโมเดลในการปราบปรามทุจริตลักษณะเดียวกันขององค์กรส่วนท้องถิ่นอื่นๆ ที่มีอยู่ทั้วประเทศกว่า 7,000 แห่ง โดยขณะนี้ตรวจพบการทุจริตลักษณะนี้แล้วประมาณ 7 จังหวัด เสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท
ขณะที่ นางพรเพชร เขมวิรัตน์ รอง ผวจ.นครสวรรค์ กล่าวว่า ทางจังหวัดได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ส่วนการลงโทษทางวินัยมีแน่นอน หลังจากสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้น
ด้าน นายสุภาพ ศักดิ์สัจจา นายกเทศมนตรีตำบลลาดยาว กล่าวว่า เหตุที่ไม่ทราบว่า น.ส.พัชรา กระทำการทุจริต เพราะมีการปลอมแปลงเอกสารเพื่ออำพรางความผิดปกติ จนกระทั่งมาทราบเรื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบขั้นตอนการทำธุรกรรมต่างๆ อย่างละเอียดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผู้กระทำผิดซ้ำรอย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินบุคคลใกล้ชิดของ น.ส.พัชรา โดยเฉพาะบัญชีธนาคารของสามี พบมียอดเงินโอนหลักหมื่นเข้ามาทุกวันตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบให้แน่ชัดว่า เงินดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร เกี่ยวข้องกับเงินที่มาจากการทุจริตครั้งนี้หรือไม่ นอกจากนี้ในระหว่างที่พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำอยู่นั้น ได้มีโทรศัพท์ปริศนาที่คาดว่าเป็นเบอร์ของแอพเงินกู้นอกระบบโทรฯ เข้ามาเพื่อทวงหนี้ น.ส.พัชรา จำนวนหลายสายอีกด้วย
ขอบคุณที่มา ข่าวเดลินิวส์
โพสต์โดย : ปลายน้ำ
