อดีตผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ เสนอสร้างกระเช้าลอยฟ้า ‘ผาซ่อนแก้ว-ภูทับเบิก’ หนุนท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 25 ม.ค. นายดิเรก ถึงฝั่ง อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีต ผวจ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวของ จ.เพชรบูรณ์ ขณะนี้เติบโตและเป็นที่นิยมมาก ติดอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อาทิ เขาค้อ, ภูทับเบิก, น้ำหนาว ฯลฯ เมื่อสมัยตนเป็น ผวจ.เพขรบูรณ์ ช่วงปี 2547-2549 ได้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ ของเพชรบูรณ์ โดยเฉพาะภูทับเบิก ขณะนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก รู้กันแต่เพียงว่าเป็นพื้นที่การเกษตรของพี่น้องชาวม้งบนภูสูง ในครั้งนั้นตนพร้อมคณะสื่อมวลชน ได้ขึ้นไปบุกเบิกและสัมผัสจนพบว่า มีหลายจุดเป็นที่สนใจ โดยเฉพาะในตอนค่ำเมื่ออยู่บนภูทับเบิก เมื่อลงไปข้างล่างจะเห็นแสงไฟในตัวเมืองหล่มสัก อย่างระยิบระยับสวยงาม เปรียบเสมือนดาวบนดิน ถ้ามีการโปรโมตดีๆ พื้นที่ตรงนี้จะเป็นที่นิยมในเชิงการท่องเที่ยว กระทั่งมีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ ในยุคนั้น จนเป็นที่รู้จัก ก่อนที่จะค่อยๆ เติบโตจนเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
“ขณะนั้นผมเคยไปดูงานต่างประเทศหลายที่ พบว่าพื้นที่ท่องเที่ยวของเค้ามีการสร้างกระเช้าลอยฟ้าเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว และเป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยกลางถึงสูงอายุ จึงคิดแผนที่จะทำกระเช้าลอยฟ้าจากผาซ่อนแก้ว ไปยังภูทับเบิก ซึ่งเป็นเทือกเขาแนวเดียวกัน และไม่ไกลกันมากนัก ก็พอดี ที่ผมต้องลาออกจากผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ ไปลงสมัคร สว.นนทบุรี เรื่องกระเช้าลอยฟ้าที่เคยคิดไว้จึงไม่ได้ทำ” นายดิเรก กล่าว
นายดิเรก กล่าวต่อว่า แม้ในปัจจุบันนี้ตนก็ยังมีความเห็นว่า
กระเช้าลอยฟ้าควรทำ โดยเฉพาะจุดผาซ่อนแก้วไปยังภูทับเบิก น่าจะมีความเหมาะสมในเรื่องพื้นที่ ซึ่งนอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวในกลุ่มสูงวัย และชาวต่างชาติแล้ว ยังจะช่วยแก้ปัญหาด้านการจราจรได้อีกด้วย และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่ง อยากให้ท่านลองนึกภาพนั่งบนกระเช้าลอยฟ้า ค่อยๆ เคลื่อนผ่านวิวทิวทัศน์บนยอดเขาต่างๆ จะมีความสวยงามขนาดไหน โดยเฉพาะในยามเช้าที่หมอกกำลังลง
นายดิเรก กล่าวอีกว่า ส่วนระยะความสูงของกระเช้า และองค์ประกอบอื่นๆ อยู่ที่การออกแบบเพื่อความปลอดภัยทางหลักวิศวะกรรม อย่างไรก็ตาม หากมีการจัดสร้างได้จริง การควบคุมดูแลและเก็บค่าบริการนั้น ควรให้เอกชนเข้ามาประมูลและดำเนินการ โดยภาครัฐอาจจะเก็บเป็นรูปแบบคล้ายๆ การสัมปทาน โดยรัฐควบคุมอีกที ที่กล่าวเช่นนี้เพราะหากเราปล่อยให้ราชการทำเองก็คงหลีกไม่พ้นเรื่องทุจริต หรือละเลยเรื่องบำรุงรักษา แต่ถ้าเอกชนเข้ามาทำแล้วเขาจะต้องดูแลอย่างดี และความนึงเรื่องความปลอดภัยอย่างมาก ทั้งการประกันชีวิตผู้ใช้บริการ และอื่นๆ
“ที่ผมกล่าวไปทั้งหมดเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวและข้อเสนอแนะที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพชรบูรณ์ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดเท่านั้น เรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่คงขึ้นอยู่กับชาวเพชรบูรณ์ ภาครัฐและการเมือง และน้อมรับทุกความคิดเห็นของทุกท่าน ที่จะมองต่างมุมไปจากตน” อดีต ผวจ.เพชรบูรณ์ กล่าว
ขอบคุณที่มา ข่าวเดลินิวส์
โพสต์โดย : ปลายน้ำ
