ทุกพรรคไม่สามารถบังคับใครได้ “ชลน่าน” ยันไม่รู้ใครคือบิ๊กเนมเพื่อไทยหนุน “ตะวัน-แบม”

“ชลน่าน” ยืนยัน ไม่รู้ใครคือบิ๊กเนมเพื่อไทยหลังทนายอานนท์กล่าวอ้าง ขอให้สนับสนุนข้อเรียกร้อง 3 ข้อตะวัน-แบม ผู้ต้องหาคดี 112 ยันการยกเลิก ม.112 เป็นเสรีภาพทุกพรรคไม่สามารถบังคับใครได้

 

 

จากกรณีที่ ทนายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบราษฎร กล่าวปราศรัยในการชุมนุมยื่นหยุดขัง 112 ชม. ของกลุ่มทะลุฟ้า ที่ลานสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน ในช่วงเย็นวันนี้ (26 ม.ค.) เพื่อกดดันให้ปล่อยตัว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ ผู้ต้องหาคดี ม.112 และประกาศอดอาหารและน้ำ ขณะถูกควบคุมในเรือนจำว่า ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากบุคคลสำคัญที่เป็นแกนนำระดับสูงที่สุดของพรรคเพื่อไทย

 

ฝ่ายค้านทุกพรรคจะร่วมสนับสนุนการต่อสู้ของตะวันและแบม และจะสนับสนุนแก้ไข-ยกเลิก ม.112 โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าทางพรรคเพื่อไทย มีความชัดเจนอย่างไรนั้น ว่า เป็นความปรารถนาดีของทนายอานนท์ ที่ต้องการจะช่วยชีวิตทั้งสองคน และข้อเสนอ 3 ข้อเรียกร้อง คือ 1.ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 2.ยุติการดำเนินคดีกับประชาชนที่แสดงออกทางการเมืองและปล่อยนักโทษทางการเมืองทั้งหมด 3.พรรคการเมืองทุกพรรคต้องเสนอนโยบายยกเลิก ม.112 และ ม.116 ข้อเสนอที่สามารถปฏิบัติได้คือข้อที่สอง

 

สามารถปฎิบัติได้ทันทีสำหรับข้อหนึ่งและข้อสาม เป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ ผู้มีอำนาจในขณะนี้รับปากว่าจะทำข้อหนึ่ง หรือหัวหน้าพรรคทุกพรรคบอกว่าจะปฏิรูปการเมืองให้ออกนโยบายให้ และทำให้ทั้งสองหยุดประท้วง เริ่มทานอาหาร แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องอนาคตวัดอะไรไม่ได้ อาจจะเป็นสัญญาประชาคม ตนขอชื่นชมน้องทั้งสองที่ใช้วิธีเดิมพันด้วยชีวิตเพื่ออนาคต บนหลักพื้นฐานที่ไม่แน่นอน ส่วนข้อสองพอจะทำได้

 

โดยทนายอานนท์อยากจะเซฟชีวิตของคนทั้งสอง จึงพยายามประสานมาทุกพรรคการเมือง ตนก็ได้รับแจ้งว่ามีการประสานมาที่พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ที่ตนโดยตรง และพรรคร่วมฝ่ายค้านได้คุยกันในประเด็นนี้ว่าจะทำอะไรได้บ้าง ไม่จำเป็นต้องครบทุกข้อ พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงออกแถลงการณ์ตอบโจทย์ในเรื่องของข้อหนึ่งและข้อสอง แต่สำหรับข้อสาม พรรคการเมืองทุกพรรคต้องเสนอนโยบายยกเลิก ม.112 และ ม.116 เป็นเสรีภาพของแต่ละพรรค เราไม่สามารถบังคับใครได้ จุดยืนและแนวทางของแต่ละพรรคไม่เหมือนกัน

 

ส่วนทนายอานนท์ ประสานกับผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยคนไหนนั้นตนไม่ทราบ น่าจะเป็นแนวทางที่เราพยายามจะช่วยน้องทั้งสอง แต่ไม่น่าจะรับปากว่าจะแก้หรือยกเลิก

 

ส่วนบิ๊กเนมของพรรคเพื่อไทยที่ติดต่อไปคือใคร นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า ไม่ทราบจริงๆ เพราะทนายอานนท์อาจจะประสานกับคนที่รู้จักคุ้นเคยคุ้นชินในพรรคเพื่อไทย แต่เชื่อว่าคงไม่ตอบถึงขนาดต้องไปทำอะไรในข้อสาม ในมุมของเพื่อไทย ตนศึกษาเรื่องนี้มาตลอด และเคยแสดงจุดยืนเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของคนทั้งสองที่ถูกจับกุม ที่มีการใช้อำนาจอย่างล้นเกินโดยไม่สมเหตุสมผล

 

เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น แต่ในรัฐบาลชุดนี้มีการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพเรา จึงเสนอให้ใช้สภาฯ เป็นที่พูดคุย แต่เราเสียงข้างน้อยไม่สามารถขยับญัตตินี้ได้ เราโดนปิดกั้น เรื่องสิทธิเสรีภาพไม่จำเป็นต้องเป็นนโยบาย เพราะในรัฐธรรมนูญมีกำกับไว้แล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องปฏิบัติตาม แต่จะไปใช้กลไกของรัฐสภาออกบทบัญญัติให้สอดคล้องก็เป็นสิ่งที่จะต้องทำต่อเนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เราขอแก้รัฐธรรมนูญในเรื่องของสิทธิมนุษยชนแต่ไม่ผ่าน ถ้าเราได้เสียงข้างมากรัฐธรรมนูญจะต้องถูกเขียนใหม่บนพื้นฐานระบบกฎหมาย

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews