Social :



ลุงวัย 61 มูฟออนอดีตคนรักรุ่นลูกไม่ได้ มีดกะซวกไม่ยั้งดับคาร้านพวงหรีด

03 มี.ค. 66 19:03
ลุงวัย 61 มูฟออนอดีตคนรักรุ่นลูกไม่ได้ มีดกะซวกไม่ยั้งดับคาร้านพวงหรีด

ลุงวัย 61 มูฟออนอดีตคนรักรุ่นลูกไม่ได้ มีดกะซวกไม่ยั้งดับคาร้านพวงหรีด

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 มี.ค. พ.ต.ท.วุฒิ คงชื่น รอง ผกก.สส. สภ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดทำร้ายสาวลูกจ้างร้านรับทำพวงหรีดเสียชีวิต บริเวณริมถนนเส้นทางสายท่าตะโก-นครสวรรค์ เขตเทศบาลท่าตะโก อ.ท่าตะโก จึงนำกำลังทีมชุดสืบสวนในสังกัดเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่กู้ภัยท่าตะโก

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้าน พบศพหญิงสาวนอนจมกองเลือด สภาพร่างกายมีร่องรอยบาดแผลถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่ร่างกายหลายแห่ง ประกอบด้วย คอ แขน และหน้าท้อง รวม 15 แผล ทราบชื่อ น.ส.สำอางค์ แป้นจั่น อายุ 38 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นแฟนเก่าของผู้ตาย คือ นายจรัส อ่อนนวล อายุ 61 ปี ภายหลังจากก่อเหตุได้เดินออกจากร้านหลบหนีไป โดยกล้องวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้

จากการสอบถาม น.ส.อัจฉราพร พูลทอง อายุ 34 ปี เพื่อนสนิทคนตาย เล่าว่า ผู้ตายเคยคบหาอยู่กินกับนายจรัส ผู้ก่อเหตุมาได้สักช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนจะเลิกรากันมาได้ประมาณ 5-6 เดือน ผู้ตายก็ได้มีแฟนคนใหม่แล้ว ส่วนนายจรัส ยังคงมูฟออนกับรักครั้งนี้ไม่ได้ จึงเที่ยวมาหา และพยายามมาง้อขอคืนดีอยู่เรื่อยๆ โดยก่อนที่จะมาเกิดเหตุการณ์สลด นายจรัส ได้ว่าจ้างวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้มาส่งร้านทำพวงหรีดที่ผู้ตายทำงานอยู่ถึง 3 รอบ ก่อนที่นายจรัส จะตัดสินใจใช้มีดที่พกมาปรี่กะซวก น.ส.สำอางค์ อย่างโหดร้ายป่าเถื่อนต่อหน้าต่อตาผู้คนอื่นๆ ที่ทำงานอยู่ภายในร้าน


“รอบที่ 3 ที่นายจรัส มาหาพี่สำอางค์ คนทั้งร้านรวมถึงนายจ้างเห็นคาตาเลยว่า พกปืนมาด้วย และพยายามจะชักออกมายังพี่สำอางค์ แต่จังหวะนั้น พี่สำอางแย่งปืนได้แล้วก็รีบส่งมาให้หนู เอาไปให้เจ้าของร้านรีบเก็บเข้าไปในร้าน เพื่อป้องกันตัวแต่ก็ยังไม่วาย เพราะนายจรัส รีบเดินไปหยิบมีดที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าย่ามแล้วรีบนำมาไล่แทงพี่สำอางค์ทันที ซึ่งตอนนั้นหนูเห็นอีกที พี่สำอางก็โดนแทงเลือดสาดท่วมตัวไปหมดแล้ว” เพื่อนสนิทผู้ตาย กล่าว

เมื่อถามถึงชนวนเหตุที่ทำให้นายจรัส และนางสำอางค์ รักล่มมาก่อนหน้านี้ น.ส.อัจฉราพร ระบุว่า เป็นเพราะในช่วงที่นายจรัส มักจะชอบใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกาย น.ส.สำอางค์ อยู่เสมอจนทนไม่ได้จึงขอเลิกและแยกทางกันไป
MulticollaC
ซึ่งก็ผ่านเวลามานานเป็นปีแล้ว แต่นายจรัส ยังคงมูฟออนไม่ได้ ก็พยายามมาง้อขอคืนดี แต่ น.ส.สำอางค์ ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่ายังไงก็ไม่ยอมกลับไป เพราะกลัวว่าจะโดนทำร้ายร่างกายซ้ำๆ แบบเดิมอีก แล้วอีกอย่าง น.ส.สำอางค์ ก็มีคนรักใหม่ไปแล้ว

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนได้มีการเก็บรวมรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมกับนำอาวุธปืนลูกซองของนายจรัสที่ถูกแย่งได้นำมาตรวจสอบยังโรงพัก ส่วนตำรวจฝ่ายสืบสวนกำลังกระจายกำลังกันตามไล่ล่าตัวนายจรัสอย่างเร่งด่วนด้วยเช่นกัน


อย่างไรก็ตาม นางมณี แป้นจันทร์ อายุ68 ปี มารดาของ น.ส.สำอางค์ ได้เดินทางมายังโรงพักพร้อมกับเปิดใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรีบจับตัวนายจรัสมาดำเนินคดีให้ไว้ที่สุด เพราะหากยังลอยนวลต่อไป เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากก่อนหน้านี้นายจรัส เคยข่มขู่เอาไว้ว่าจะฆ่ายกครัว จึงหวาดระแวงว่า จะวนเข้ามาก่อเหตุร้ายอีก

เมื่อถามถึง น.ส.สำอางค์ บุตรสาวที่เสียชีวิต นางมณี ระบุว่า เดิมที น.ส.สำอางค์ มีลูกติดเป็นเด็กหญิง 2 คนวัย 17 ปี และวัย 12 ปี เมื่อเลิกรากันสามีคนแรกก็มาคบหาอยู่กินกับนายจรัส ได้ไม่นาน ก็มามีปัญหาทะเลาะกันอยู่เรื่อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่นายจรัส มักจะชอบดื่มเหล้าหัวลาน้ำ เมื่อเมาหนักได้ที่ก็จะสวมวิญญาณป่าเถื่อนโหดร้าย

“ไม่ได้เถื่อนแบบตบจูบนะ แต่เถื่อนระดับประเคนแข้งหมัด เข่า ศอก หรือแม้แต่อะไรที่อยู่ใกล้ตัว ก็หยิบมาทำร้ายลูกสาวฉันได้หมด ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ลูกสาวต้องตัดขาดเลิกรา เพราะถูกทำร้ายหนักถึงขั้นเลือดอาบมาแล้ว แต่ยังมีหน้าจะมาขอคืนดีกับลูกสาวฉันอีก ฉันจึงไม่ยอมให้ลูกสาวกลับไปคืนดีอีกเด็ดขาด แต่ก็ยังมาถึงบ้านแถมยังมาขู่ฆ่ายกครัวอีกด้วย ส่วนตัวฉันไม่กลัวนะ ถ้ามาฉันจะสู้ให้ตายไปข้างหนึ่ง แต่ที่ห่วง ก็คือลูกของบุตรสาว จะได้รับเคราะห์ไปด้วย จึงขอให้ตำรวจรีบจับตัวให้ได้โดยด่วน” แม่ น.ส.สำอางค์ กล่าว

ขอบคุณที่มา      ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ