Social :



‘ทนายตั้ม-ไฮโซสาว’ บุกร้อง ‘ผบ.ตร.’ ฟันวินัยร้ายแรงพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกมิชอบ

03 มี.ค. 66 19:03
‘ทนายตั้ม-ไฮโซสาว’ บุกร้อง ‘ผบ.ตร.’ ฟันวินัยร้ายแรงพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกมิชอบ

‘ทนายตั้ม-ไฮโซสาว’ บุกร้อง ‘ผบ.ตร.’ ฟันวินัยร้ายแรงพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกมิชอบ

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) น.ส.ช่อฉัตร โตชูวงศ์ ไฮโซสาวเจ้าของบริษัทรับผลิตจำหน่ายน้ำยางพารารายใหญ่ พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และนายธีรฉัตร สิรันทวิเนติ ทนายความ เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ออกหมายเรียกผู้ต้องหาโดยมิชอบ มีลักษณะกลั่นแกล้ง ในคดีที่นายศุภชัย โพธิ์สุ , น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ ลูกสาว และนายธนบวร สิริคุณากรกุล แจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาท โดยมี พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ รองผู้บังคับการกองร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ นายตำรวจเวรอำนวยการ เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ


นายษิทรา กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. ให้ดำเนินการสอบวินัยตำรวจสภ.เมืองนครพนม คดีนี้สืบเนื่องจากตนและน.ส.ช่อฉัตร ได้แถลงข่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แต่ปรากฎว่านายศุภชัย ลูกสาว และนายธนบวร ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่สภ.เมืองนครพนม ในความผิดเรื่องเดียวกันที่ตนได้มีการแถลง โดยมีการแยกแจ้งความทั้งหมด 3 ครั้ง โดยนายธนบวรได้แจ้งความก่อนกับร้อยเวรคนหนึ่ง จากนั้นนายศุภชัยและลูกสาวก็ได้มาแจ้งความอีกคนละคดี ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นคดีเนื้อหาเดียวกัน เรื่องนี้อย่างไรก็ต้องนำเรียนให้ผู้บังคับบัญชาทราบอยู่แล้ว ผู้บังคับบัญชาจะต้องรู้ว่าเป็นเรื่องเดียวกันก็ควรจะต้องรวมคดี แต่ปรากฏว่าเขารู้อยู่แล้วว่าตนกับน.ส.ช่อฉัตร อยู่กรุงเทพมหานคร แต่มีการออกหมายเรียกซ้ำซ้อนกันหลายครั้งให้เราเดินทาง ทั้งๆ ที่จริงแล้วเป็นคดีเล็กน้อย

นายษิทรา กล่าวว่า คดีแรกตนได้มีการขอเลื่อนไปแล้ว แต่ตำรวจเจ้าของคดียศ “ร.ต.อ.” ได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ทั้งๆ
MulticollaC
ที่ตนและน.ส.ช่อฉัตรได้แจ้งไปแล้วว่าจะไปวันที่ 29 มี.ค. 66 แต่ได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 เพื่อเป็นเหตุให้ออกหมายจับได้ กรณีต่อมาตำรวจยศ “พ.ต.ท.” ได้นำเรื่องที่ไม่มีมูลมาแจ้งข้อหาตนและน.ส.ช่อฉัตร เพราะการที่นายศุภชัยและลูกสาวมาแจ้งความคนละคดีกัน ในวันนั้นตนไม่ได้พูดเลยว่าผู้แจ้งความเป็นคนไม่ดี ตนไม่ได้ไปพูดแบบนั้นเลย แต่ตนพูดถึงคนที่ทำงานกับเขา แต่ไม่รู้ว่านำขัอมูลตรงไหนไปเกี่ยวข้องไปเดือดร้อนก็ไม่รู้ แล้วจึงมีการไปแจ้งความตนและน.ส.ช่อฉัตร


“ผมคิดว่าการที่ พ.ต.ท. ได้ออกหมายเรียกทำให้ผมได้รับความเสียหาย เพราะคดีไม่มีมูล เขาไม่ใช่ผู้เสียหายในคดี แต่ได้ออกหมายเรียกให้ผมมีความลำบากเดินทางไกลไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีหมิ่นประมาท” ทนายตั้ม กล่าว

ทนายตั้ม กล่าวต่อว่า นอกจากจะร้องเรียนตำรวจ 2 นายนี้แล้ว จะร้องเรียนผู้บังคับบัญชาด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วเขามีหน้าที่ที่จะต้องตรวจคดีสำคัญ แต่ปรากฎว่าได้มีการปล่อยปละละเลย จึงมาร้องผบ.ตร. ให้มีการสอบวินัยร้ายแรงและให้มีการดำเนินคดีอาญากับตำรวจทั้งหมดในเรื่องที่ได้ออกหมายเรียก มีลักษณะกลั่นแกล้งให้ได้รับความลำบาก นอกจากตนและน.ส.ช่อฉัตรถูกออกหมายเรียกแล้ว ทนายความอีกคนของน.ส.ช่อฉัตร ก็ถูกออกหมายเรียกในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้ได้ขอให้มีการโอนคดี เพราะไม่ไว้ใจการทำงานของตำรวจสภ.เมืองนครพนม เพราะเกี่ยวข้องกับนักการเมืองระดับรองประธานสภาฯ และนายกอบจ. เนื่องจากอาจไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องขอให้ผบ.ตร.โอนคดีมาให้กองปราบปรามทำคดีต่อ.

ขอบคุณที่มา ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ