ต้องเร็ว! พรุ่งนี้เปิดจองสิทธ์เที่ยวด้วยกัน 5
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วันที่ 7 มี.ค.-26 เม.ย. 2566 เวลา 6.00-23.00 น. เปิดจองที่พัก และกดยอมรับข้อตกลง (Consent) ในแอพพลิเคชั่นเป๋าตังเพื่อใช้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 รัฐบาลจะสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อห้องต่อคืน จำกัดสิทธิคนละไม่เกิน 5 ห้อง หรือ 5 คืนมีจำนวนสิทธิทั้งหมด 560,000 สิทธิหรือห้องพัก
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2566 มีประชาชนลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการฯแล้วจำนวน 9,847,372 คน แบ่งเป็นคนเก่าที่เคยร่วมโครงการฯ 9,784,050 คน และคนใหม่ที่ไม่เคยร่วมโครงการจำนวน 63,332 คน มีผู้ประกอบการทั้งร้านค้า ร้านอาหารและโรงแรมเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 6,862 ราย
“ในช่วงโครงการเราเที่ยวด้วยกันตั้งแต่เฟส 1-4 จะเป็นช่วงปลายโลว์ซีซัน มีผู้ใช้สิทธิเดือนละประมาณ 5 แสนสิทธิ แต่ในรอบนี้ โครงการจะดำเนินการในช่วงสงกรานต์ ซึ่งเป็นเทศกาลท่องเที่ยวของไทย ในการเฉลิมฉลองปีใหม่ไทย ซึ่งปีนี้น่าจะคึกคักเพราะไทยไม่ได้จัดสงกรานต์มา 3 ปี ครั้งนี้จึงอาจหมดเร็วกว่าเดิม เพราะใช้สิทธิได้ถึงเพียงสิ้นเดือนเม.ย. นี้เท่านั้น กอปรกับเหลือสิทธิคนละ 5 ห้อง/คืน ดังนั้น น่าจะได้ลุ้นหมดเร็วขึ้นกว่าสถิติที่ผ่านมา”
สำหรับการเปิดจองสิทธิ์ จะเริ่มวันที่ 7 มี.ค.- 26 เม.ย. 2566
เปิดจองที่พัก และกดยอมรับข้อตกลง (Consent) ในแอพฯ เป๋าตัง วันที่ 10 มี.ค. Check in เข้าที่พักวันแรก วันที่ 26 เม.ย. จองที่พักวันสุดท้าย วันที่ 29 เม.ย. Check in เข้าที่พักวันสุดท้าย และ วันที่ 30 เม.ย. 2566 วันสิ้นสุดโครงการ Check out ที่พักวันสุดท้าย
ด้านนายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สำหรับมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวของ ฮ่องกง ในการออกแคมเปญแจกตั๋วเครื่องบินฟรี 5 แสนที่นั่งจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในระดับต่ำ และในระยะสั้นเท่านั้น และไทยมุ่งส่งเสริมกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีรายได้สูง และมีการจับจ่ายใช้สอยสูง ทั้งนี้มาตรการแจกบัตรโดยสารเครื่องบินฟรีไม่ใช่แนวทางวิธีการที่จะดึงดูดใจนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้
อีกทั้งกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวของฮ่องกงจะแตกต่างจากประเทศไทยมาก ทั้งนี้ ฮ่องกงมุ่งส่งเสริมนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ชื่นชอบงาน อีเวนต์ใหญ่ๆ อาทิ คอนเสิร์ต กีฬา และกลุ่มที่ชอบด้านอาหาร ช็อปปิ้ง และนักธุรกิจ
ขณะที่ประเทศไทยมุ่งส่งเสริมกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายกว่า โดยเฉพาะกลุ่มที่เดินทางเพื่อพักผ่อนจริงๆ แต่ยอมรับว่ากลุ่มที่อาจจะมีแนวโน้มถูกดึงส่วนแบ่งตลาดไป จะเป็นกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มวัยทำงานช่วงเริ่มต้น และกลุ่มที่อ่อนไหวต่อราคา
โพสต์โดย : ปลายน้ำ
