จบปัญหา 10 ปี หนุ่มใหญ่ รัว 2 นัดดับเพื่อนบ้าน เซ่นปมพิพาทที่ดิน หนีเข้าบ้าน-ขังตัวเอง

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 10 มี.ค.66 ร.ต.อ.พชรพล ตันจริง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นายายอาม จ.จันทบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ว่ามีเหตุทะเลาะวิวาท ใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายร่างกายกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดพื้นที่ หมู่ 13 ต.นายายอาม อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ขณะที่มือปืนขังตัวเองอยู่ในบ้าน พร้อมกับอาวุธปืน

จากนั้น พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.อดุลย์ ศรีพารา รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.นายายอาม นำกำลังตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัด เจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน และกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯร่วมเดินทางตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย นอนเสียชีวิตจมกองเลือกอยู่กลางถนนลูกรังหน้าบ้านของตัวเอง ทราบชื่อคือ นายสำรวย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ใต้ตาขวา 1 นัด กระสุนฝังใน และชายโครงใต้รักแร้ซ้ายอีก 1 นัด กระสุนทะลุสะบักไหล่ขวา นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนตกอยู่ 1 ปลอก และข้างตัวผู้เสียชีวิต พบมีดขอดายหญ้ายาวประมาณ 3 ฟุต ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายประสิทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ได้หลบหนีเข้าไปในบ้านแล้วขังตัวเองพร้อมอาวุธปืน

ต่อมา พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมปิดล้อมบ้านพัก และพยายามเจรจาเกลี้ยกล่อม โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จน นายประสิทธิ์ ยอมมอบตัว พร้อมกับอาวุธปืนขนาด 9 มม. ซึ่งยังมีกระสุนบรรจุอยู่ในแม็กกาซีน 12 นัด ก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำและดำเนินคดี

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ชนวนสาเหตุมาจาก ทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต มีปัญหาทะเลาะกันเรื่องที่ดินที่อยู่ติดกัน ขณะชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุ กับ ผู้เสียชีวิต เป็นเพื่อนบ้านกัน มีปัญหาพิพาทเรื่องที่ดิน ที่ระหองระแหงมานานกว่า 10 ปี ก่อนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุ เดินผ่านหน้าบ้านของ ผู้เสียชีวิต 2-3 รอบ จนทำให้ผู้เสียชีวิตเกิดความสงสัย แล้วเดินออกไปที่หน้าถนนพร้อมกับมีดขอไปถามผู้ก่อเหตุว่ามีปัญหาอะไร ก่อนที่ทั้งสองจะมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง

หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุ ได้ชักเอาอาวุธปืนจ่อยิงผู้เสียชีวิต 2 นัด จนล้มฟุบลงกลางถนน ขณะที่เพื่อนบ้านจะวิ่งไปช่วย กลับถูกผู้ก่อเหตุ ตะโกนขู่ว่า “อยากตายอีกศพหรือเปล่า” จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย ก่อนที่ผู้ก่อเหตุ จะหลบหนีกลับไปที่บ้าน