ฝาก ‘ปากท้อง’กับเลือกตั้ง

แม้ขณะนี้รัฐบาลจะประกาศควบคุมสินค้า โดย คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) มีมติต่ออายุสินค้าควบคุม 5 รายการ จากเดิมวันที่ 24 ม.ค. 66 ออกไปอีก 1 ปี เป็นหมดอายุวันที่ 24 ม.ค. 67 ทำให้มีสินค้าและบริการควบคุมเหมือนเดิม คือ 56 รายการ

โดยสินค้าที่ต่ออายุ 5 รายการ ได้แก่ หน้ากากอนามัย, ใยสังเคราะห์ เพื่อผลิตหน้ากากอนามัยที่เรียกว่า สปันบอนด์, แอลกอฮอล์และเจลล้างมือ, เศษกระดาษและกระดาษที่นำกลับมาใช้ได้อีก หรือที่เรียกว่ากระดาษรีไซเคิล, ไก่และเนื้อไก่

สำหรับสินค้าและบริการควบคุมปี 2566 จำนวน 56 รายการ อาทิ หมวดกระดาษและผลิตภัณฑ์ กระดาษทำลูกฟูก, กระดาษเหนียว, กระดาษพิมพ์และเขียน หมวดบริภัณฑ์ขนส่ง ยางรถจักรยานยนต์, ยางรถยนต์, รถจักรยานยนต์, รถยนต์บรรทุก

หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ยารักษาโรค, ท่อพีวีซี, ปูนซีเมนต์, สายไฟฟ้า, ก๊าซปิโตรเลียมเหลว, น้ำมันเชื้อเพลิง หมวดปัจจัยทางการเกษตรที่สำคัญ ข้าวเปลือก, ยางพารา, ผลปาล์มน้ำมัน, ต้นพันธุ์ ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง, ผลิตภัณฑ์ล้างจาน, สบู่เหลว สบู่ก้อน

หมวดอาหาร ไข่ไก่ แป้งสาลี เนื้อสุกร อาหารสำเร็จรูปบรรจุภาชนะผนึก มังคุด ลำไย ทุเรียน และ หมวดอื่นๆ เครื่องแบบนักเรียน บริการทางการเกษตร บริการรักษาพยาบาล บริการรับชำระเงิน เป็นต้น

…ทว่าไป การควบคุมก็ช่วยบรรเทาได้ส่วนหนึ่ง และเมื่อมองถึงการออกมาเปิดโปงทุจริตเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงการใช้งบฟุ่มเฟือยต่างๆ ไม่แปลกที่ประชาชนจะให้ความสนใจ เพราะเมื่อมองย้อนกลับไปถึงเศรษฐกิจรากหญ้า ปัญหาเดือดร้อนปากท้องยังหนักหน่วง 

รู้ว่ายากจะควบคุม เพราะไม่เพียงเศรษฐกิจในประเทศ แต่ใกล้เลือกตั้งเข้ามาทุกขณะอย่างนี้ มองไปหลายพรรคการเมืองต่างแข่งกันชูนโยบาย

“มหาปราบ” ก็ได้แต่หวังจะ “ฝากฝีฝากไข้” ให้ ในจำนวนนโยบายหลัก การเร่งแก้ปัญหาปากท้องจะถูก “โฟกัส” จริงจัง เพื่อประโยชน์ของประชาชนมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา.

มหาปราบ.