ข่มเหงประชาชน “ณัฐชา” ฝากถึง “แรมโบ้” อย่าทำตัวเป็นโบโบ้ซื้อสัตย์ต่อเผด็จการ

“ณัฐชา” ฝากถึง “แรมโบ้” อย่าทำตัวเป็นโบโบ้ซื้อสัตย์ต่อเผด็จการ ข่มเหงประชาชน

 

 

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขอฝากไปถึง นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อย่าทำตัวเป็นโบโบ้ที่ซื่อสัตย์กับเผด็จการ หนุนพฤติกรรมป่าเถื่อนชอบใช้อำนาจ กดขี่ข่มเหงประชาชนให้มากนัก อย่างน้อยก็เคยเป็นแกนนำมวลชนคนเสื้อแดงที่เคยถูกกดขี่ข่มเหงจากอำนาจไม่เป็นธรรม จะพูดจาอะไรให้เหลือสำนึกความเป็นคนที่มีคุณธรรมและมนุษยธรรมไว้บ้าง

 

ทั้งนี้ นายณัฐชา กล่าวต่อว่า”รู้สึกสมเพชกับสิ่งที่ นายเสกสกล ทำ มีการเล่าเป็นฉากๆ เพื่อแก้ตัวให้การกระทำอันป่าเถื่อนภายใต้ความเพิกเฉยของนายกรัฐมนตรี กรณีคุณป้าท่านหนึ่งเตรียมขวางขบวนเพื่อขอเข้าพบนายกฯ ที่จังหวัดราชบุรี ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เกินกว่าเหตุแถมยังขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ปกป้องนายกฯด้วย”

 

นายณัฐชา กล่าวต่อว่า ในฐานะนักการเมือง พวกเราไปหาเสียงมาทั่วประเทศ มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เหตุการณ์แบบนี้เราก็เคยเจอ แต่ในเมื่อประชาชนมีสิทธิที่จะคิดและแสดงความเห็น เราก็ต้องรับมือเหตุการณ์เหล่านี้ด้วยวุฒิภาวะ แน่นอนว่าตนไม่เห็นด้วยกับการป่วนหรือคุกคามใช้ความรุนแรงในการแสดงออก แต่เรามีวิธีจัดการได้มากมายโดยไม่ใช้การกระทำเหมือนเห็นประชาชนไม่ใช่คนอย่างนี้

 

นายณัฐชา ย้ำว่า การที่เจ้าหน้าที่เข้าไปฉุดกระชากลากตัวเข้าซอกแคบๆ ปิดตา ปิดปากแถมยังเอาร่มบังระหว่างจับกุมคุมตัว ไม่ใช่วิธีการตามหลักสากลแน่นอน แต่คือการละเมิดและทำร้ายร่างกายอย่างชัดเจนและอุกอาจ

 

และยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “จริงอยู่ที่นิสัยชอบใช้ปากใช้ลิ้นสร้างความชอบความพึงใจให้เจ้าของนั้นไม่ผิดและคงอยู่ในกมลสันดานไปแล้วแก้ยาก แต่ขอฝากคุณแรมโบ้ ไว้นิดเดียวว่า ถึงเปลี่ยนนายใหม่อยากให้คำนึงเสมอว่า หากเลียมากไปจะเสียผู้เสียคนได้ และอยากเตือนด้วยความหวังดี อยากให้คิดถึงวันที่ต้องแยกทางกันมากๆ

 

เพราะครั้งนี้เหลือเวลาอีกไม่นานแล้วจริง ตนฟันธงเลยว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่มีทางกลับมาเหยียบทำเนียบได้อีกอย่างแน่นอน ดังนั้น ควรเอาเวลาช่วงนี้ไปหานายใหม่เตรียมไว้จะดีกว่า และไม่ต้องอายเพราะสันดานเดิมเป็นอย่างไรคนเขาประจักษ์กันดีอยู่แล้ว ยิ่งคราวนี้ไม่ได้บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรไว้ด้วย จะทำการใดมันก็คล่องตัวกว่าแต่ก่อนมาก”นายณัฐชา กล่าว

 

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews