ในสมัยโบราณ มีความเชื่อว่าการที่คนตายเนี่ยก็เพราะผีมาเอาชีวิตไปสำหรับคนที่เรารักมันเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากหากจะต้องจากกันด้วยความตาย จึงจำเป็นที่จะหาวิธียึดเหนี่ยวปลอบขวัญด้วยหลากหลายวิธี ทั้งหาพระรดน้ำมนต์ พึ่งไสยศาสตร์ สะเดาะเคราะห์กับพระหรือกับผู้รู้ในแต่ละชุมชนนั้นๆ ให้ได้ถึงที่สุดเต็มกำลัง และอีกวิธีที่คงห่างหายไปนานจากวิถึของคนไทยในอดีต ก็คือการทำตุ๊กตาเสียกบาล
เวลามีคนเจ็บป่วย ร่อแร่ ใกล้ตาย เค้าก็เลยพยายามหาวิธีว่า จะทำยังไงไม่ให้ผีมาเอาตัวไปได้ ก็เลยปั้นตุ๊กตาดินขึ้นมา ให้เป็นเพศเดียวกับคนที่ใกล้ตายเสร็จแล้วหักคอตุ๊กตาตัวนั้นซะ ทำพิธีเสียกบาลแล้วก็เอาไปวางไว้ที่ทางสามแพร่งเอย หรือลอยน้ำไป เป็นกลอุบายหลอกผี โดยใช้ตุ๊กตาเป็นตัวแทนของคนใกล้ตายนั่นเอง พอทำพิธีเสียกบาลตุ๊กตา ก็เหมือนเป็นการโอนถ่ายความตายไปให้ตุ๊กตาและเป็นการบอกผีว่าเนี่ยคนนี้ตายแล้วนะ ไม่ต้องมาเอาชีวิตไปแล้วนะ ตายแล้ว และนอกจากตุ๊กตาเสียกบาลจะทำขึ้นในช่วงที่มีคนใกล้ตายแล้วยังทำขึ้นในกรณีที่มีหญิงท้องโตใกล้คลอด และเวลาที่มีเด็กเกิดอีกด้วย ที่ทำพิธีนี้กับหญิงใกล้คลอดก็เพราะแต่ก่อนการแพทย์ยังไม่ทันสมัยเหมือนทุกวันนี้ การคลอดลูกนี่เป็นตายเท่ากันก็เลยถือว่าคนท้องนี่ก็อยู่ในภาวะเสี่ยงตายเหมือนกัน
ส่วนที่ทำพิธีนี้ในช่วงเวลาที่มีเด็กเกิด ก็เพราะคนโบราณเชื่อกันว่า ผีจะมาเอาชีวิตเด็กทารกไป เพราะหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู แต่ในกรณีนี้จะไม่หักคอตุ๊กตา แต่จะใช้มีดกรีดหน้าตุ๊กตาให้ดูน่าเกลียดแทน เสร็จแล้วเอาไปเซ่นผีที่ทางสามแพร่งเช่นกัน เป็นนัยว่าเด็กคนนี้หน้าตาน่าเกลียดนะ
ตุ๊กตาเสียกบาลเป็นตุ๊กตาดินเผาเคลือบสมัยสุโขทัย มีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๙-๒๐ ส่วนใหญ่จะปั้นเป็นผู้หญิงมือถือของใช้ หรือเป็นผู้หญิงอุ้มเด็ก
ตุ๊กตาเสียกบาลยังมีรูปแบบตามยศศักดิ์ของผู้เป็นเจ้าของ เช่น ก่อนออกศึกโหรทำนายทายทักว่ามีเคราะห์ก็จะทำการปั้นตุ๊กตาเสียกบาลเป็นรูปต่างๆ เช่น พระยาขี้ม้า หรือขี่ช้าง แล้วหักคอตุ๊กตาทิ้ง แล้วนำตัวไปฝังตามที่ตนเห็นว่าเหมาะสมส่วนใหญ่จะฝังใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือฝังริมน้ำ ส่วนหัวก็เอาไปฝังเช่นกันแต่ฝังในที่ที่ห่างกันที่เพื่อแก้เคล็ดตามความเชื่อ
ขอบคุณคลิป>>Youtube>>BiRdY-CH