Social :



ชี้แจงที่ดิน ต่อ ปปช. “ชูวิทย์” ไม่ต้องห่วงโดนถล่มหนักโค้งสุดท้าย-เป็นของแข็ง

11 พ.ค. 66 07:05
ชี้แจงที่ดิน ต่อ ปปช. “ชูวิทย์” ไม่ต้องห่วงโดนถล่มหนักโค้งสุดท้าย-เป็นของแข็ง

ชี้แจงที่ดิน ต่อ ปปช. “ชูวิทย์” ไม่ต้องห่วงโดนถล่มหนักโค้งสุดท้าย-เป็นของแข็ง

“ชูวิทย์” ยื่นหลักฐานชี้แจงที่ดิน ต่อ ปปช.เสียภาษีที่ดินถูกต้องครบถ้วน ไม่ต้องห่วงโดนถล่มหนักโค้งสุดท้าย จับตาชลบุรี-ปทมุฯซื้อเสียง
 

 

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เดินทางมายื่นเอกสารหลักฐานประกอบคำให้การต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีที่ดินบริเวณซอยสุขุมวิท 10 (สวนชูวิทย์) ภายหลังจากเมื่อวานนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล และ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ อดีตโฆษกคณะกรรมการการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การใช้กัญชา กระทรวงสาธารณสุข นำเอกสารหลักฐานยื่นต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบที่ดิน และสวนของนายชูวิทย์

 

 




โดยนายชูวิทย์ เปิดเผยว่า ตนเองโดนถล่มในช่วงโค้งสุดท้าย แต่ขอให้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะตนเองไม่สมาธิแตก และตนก็เป็นของแข็ง หลังจากนี้ให้รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น พร้อมพูดถึงเรื่องกัญชา และกล่าวถึงนายปานเทพว่า ไม่ต้องมาท้าตนเองดีเบตเรื่องกัญชา เพราะตนเองเป็นแค่หมอนวด แต่ถ้าเก่งจริงขอให้ไปดีเบตกับ นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย และกรรมการแพทยสภา เพราะเป็นหมอเหมือนกัน

 

 

ส่วนประเด็นเรื่องที่ดินของตนเอง นายชูวิทย์ ระบุว่า ตนเองไม่ได้ขอมาฟรี แต่ซื้อมาในราคา 500 ล้านบาท และนำมาสร้างเป็นบาร์เบียร์ แต่ภายหลังถูกรื้อถอน จนต้องต่อสู้คดี และติดคุก ตนจึงเห็นควรว่า อยากให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นสวนสาธารณะโดยตั้งชื่อว่า “สวนชูวิทย์” ตามชื่อของตัวเอง เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์
Lif
และมีเจตนาที่ดีจึงสร้างสวนนี้ขึ้นมา

 

 

ทั้งนี้ ขอย้ำว่าตนเองเสียภาษีที่ดินถูกต้องครบถ้วนทุกปี รวมถึงค่าน้ำ ค่าไฟ อีกทั้งยังมีบ้านอยู่ภายในพร้อมบ้านเลขที่ด้วย ซึ่งคนในพื้นที่คลองเตย และเจ้าหน้าที่ กทม.ทุกคนรู้ดี และวันนี้ที่ออกมาพูด เพราะถูกผู้ไม่หวังดีจ้องที่จะถล่มตนเองในโค้งสุดท้าย ซึ่งยืนยันว่า ตนไม่ได้ยกที่ดินให้เป็นของสาธารณะ ที่ดินยังเป็นชื่อของตัวเองอยู่ แต่ให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์จากที่ดินส่วนนี้ มีเวลาเปิดปิดชัดเจน และมีรั้วรอบขอบชิด และถ้าคนเองยกที่ดินตรงนี้ให้สาธารณะจริงๆ ครอบครัวของตนโดยเฉพาะภรรยาคงเอาตายแน่

 

 

นายชูวิทย์ยังย้อนถามกลับนายสนธิด้วยว่า เคยตรวจสอบตัวเองบ้างหรือไม่ และเคยทำอะไรให้กับสังคมบ้าง และการที่นายสนธิมาร้องก็เพราะอยากทำลายชื่อเสียงของตนเอง


 

 

ขณะเดียวกัน นายชูวิทย์อ้างว่าวันเลือกตั้งที่ 14 พ.ค.นี้ อยากให้สังคมตั้งใจ และจับตามองการเลือกตั้งในครั้งนี้ให้ดี เพราะเป็นการโกงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ พื้นที่ที่ต้องจับตามองคือ จ.ชลบุรี และ จ.ปทุมธานี มีการแจกจ่ายเงินที่ได้มาจากการโกงก่อนหน้านี้ ซึ่งตนเองมีหลักฐานครบ ถึงขั้น กกต.ประจำหน่วยเลือกตั้งส่งเอกสารหลักฐานมาให้ และเชื่อว่าวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะเกิดการโกงเป็นดาวกระจายแน่นอน

 


ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy