วันนี้(12 พ.ค. 66) พนักงานสอบสวน นําตัว นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ส่งฟ้องอัยการในคดี “ประทุษร้าย-หมิ่นสถาบัน” จากกรณีที่นายเทพมนตรี ลิมปพยอม ได้แจ้งความเอาไว้ก่อนหน้านี้ที่ สน.ดุสิต
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายความของนายปิยบุตร กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจากที่นายปิยบุตรโพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ เกี่ยวกับเรื่องปฏิรูปสถาบัน ซึ่งเป็นการโพสต์ข้อความสั้นๆเท่านั้น แต่กลับถูกนายเทพมนตรี ลิมปพยอม แจ้งดํานเนินการในเข้าผิด ม.112
ด้านนายปิยบุตร กล่าวว่า ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือไม่ที่มีการนําตัวมาส่งฟ้องอัยการในวันนี้ ซึ่งตรงกับวันปราศรัยใหญ่ของพรรคก้าวไกล และก่อนหน้านี้เคยแจ้งพนักงานสอบสวนไปแล้วว่าอยู่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง จึงขอให้ดําเนินการต่างๆหลังจากเลือกตั้งเสร็จ ซึ่งวันนี้ก็ทําให้เสียเวลาเสียโอกาสในการหาเสียงช่วงเช้า รวมถึงการเตรียมตัวปราศรัยใหญ่ในช่วงเย็นนี้
โดยนายปิยบุตร กล่าวต่ออีกว่า ไม่เป็นไร ในเมื่อพนักงานสอบสวน ยืนยันที่จะส่งฟ้องอัยการวันนี้ ตนเองก็ยินดีมาทําตามหน้าที่ และหากประชาชนเห็นว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกลโดนกระทําอยู่ตอนนี้
สําหรับในคดีดังกล่าวทางพนักงานสอบสวนได้เชิญผู้เชี่ยวชาญที่มาวิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องความผิด ม.112 โดยนายปิยบุตรกล่ววถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนได้ขอให้พนักงานสอบสวนช่วยเปิดชื่อของผู้เชียญชาญ แต่ปัญหาคือพนักงานสอบสวนไม่ยอมเปิดเผยชื่อ ตนจึงไม่ทราบว่าผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญนั้น เป็นปรปักษ์กับตนเองหรือไม่
สําหรับข้อความที่โพสต์ลงทวิตเตอร์ไปนั้น นายปิยบุตร ยืนยันว่า ไม่เข้าข่ายความผิด ม.112 อย่างแน่นอน หากผิดคงไม่ต้องมีอาจารย์สอนกฎหมายแล้ว และขอฝากถึงพนักงานสอบสวนด้วยว่า ควรใช้ดุลยพินิจ ในการพิจารณาไม่ใช่ว่าใครฟ้องดําเนินคดี ม.112 ก็จะต้องส่งฟ้องอัยการทุกคดี ควรพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ เพราะจากสถิติยืนยันชัดเจนว่า คดี ม.112 นั้น มักจะถูกส่งมายังอัยการ แทบจะ 100 เปอร์เซนต์
อย่างไรก็ตามภายหลังนายปิยบุตร เข้าพบอัยการเสร็จได้ลงมาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในวันนี้อัยการได้รับสํานวนของพนักงานสอบสวนไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ขอเวลาพิจารณา ซึ่งจะนัดเข้ามาพบอีกครั้งในวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 เวลา10.00 น. ว่าจะมีคําสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องต่อไป
ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews
