ชี้ เวลานี้ดีสุดในการเปลี่ยนแปลงประเทศ “ธนาธร” ชู “พิธา” เหมาะสุดที่จะเป็นนายกฯ
“ธนาธร” ชู “พิธา” เหมาะสุดที่จะเป็นนายกฯ ชี้ เวลานี้ดีสุดในการเปลี่ยนแปลงประเทศ
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล กล่าวปราศรัยบนเวทีใหญ่ครั้งสุดท้าย ก่อนการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 ว่า เวลานี้คือโมงยามที่ดีที่สุดสำหรับการเปลี่ยนประเทศ จากพรรคอนาคตใหม่มาจนถึงพรรคก้าวไกล เราไม่ใช่แค่พรรคการเมือง แต่คือผู้คนและการเดินทาง เราได้เดินทางผ่านสิ่งต่าง ๆ และลงมือทำสิ่งต่าง ๆ มามากมาย
ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ทั้งในและนอกสภา ไม่ว่าจะเป็นต่อการทุจริตคอร์รัปชัน อิทธิพลมืด ค้ายาเสพติด ตำรวจตั๋วช้าง การผูกขาดในระบบเศรษฐกิจ ที่เป็นต้นเหตุของความเหลื่อมล้ำ ปฏิบัติการไอโอของกองทัพ การใช้งบประมาณและการจัดซื้อจัดจ้างที่เต็มไปด้วยความผิดปกติของกองทัพ การต่อสู้เพื่อสิทธิของแรงงาน
เพื่อสิทธิที่ดินของชาวบ้าน คนไทยพลัดถิ่น และกลุ่มคนต่าง ๆ ที่ไร้ปากเสียงในสังคม และในขณะที่เพื่อนพรรคก้าวไกลของเราทำงานอยู่ในสภาฯ คณะก้าวหน้าก็ทำงานอยู่ในระดับท้องถิ่น เช่น การทำน้ำประปาให้ดื่มได้ที่ ต.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด พัฒนาระบบการแพทย์ทางไกลในตำบลไปพร้อมกัน
นายธนาธรระบุว่า ตั้งแต่อนาคตใหม่จนมาเป็นพรรคก้าวไกล ทุกคนเป็นคนเท่าเทียมกัน
ควรเข้าถึงบริการของรัฐอย่างเสมอภาคกัน เราปฏิบัติตามคุณค่าที่เรายึดถือ ไม่ใช่แค่สโลแกนสวย ๆ ที่แปะไว้หน้าพรรค แต่คือการกระทำ และเหตุผลที่เรากล้าเผชิญหน้ากับผู้มีอิทธิพล กลุ่มทุนผูกขาด ก็เพราะพวกเขาไม่ใช่นายของเรา นายของเรามีคนเดียวนั่นก็คือประชาชนเท่านั้น พรรคการเมืองนี้เป็นพรรคการเมืองที่มาจากประชาชน เป็นของประชาชน และดำรงอยู่เพื่อประชาชน นี่คือพวกเราอนาคตใหม่-ก้าวไกล
“ในยามที่ไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่คนไหนในบ้านเมืองนี้ออกมายืนยันในสิทธิเสรีภาพในการพูด คิด เขียน และการประกันตัวของประชาชน ไม่มีใครออกมายืนยันเผชิญหน้าความจริงอันน่ากระอักกระอ่วน ในยามที่สังคมโหยหาเสียงแห่งเหตุผล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกลคนปัจจุบัน ได้แสดงความเป็นผู้นำออกมาให้เห็นอย่างกล้าหาญ ตอบสนองเสียงเรียกร้องแห่งยุคสมัย เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองคนแรกและคนเดียวในรอบ 10 ปี ที่กล้าออกมาพูดความจริงอันน่ากระอักกระอ่วนใจ ในสภาผู้แทนราษฎร อย่างมีวุฒิภาวะ อย่างเห็นอกเห็นใจและเข้าใจทุกฝ่าย ขณะที่ยังดำรงความหนักแน่นทางการเมืองไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย นี่คือเหตุผลที่พิธาเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผู้นำทางการเมืองของประเทศไทยในวันนี้” นายธนาธรกล่าว
นายธนาธรกล่าวทิ้งท้ายว่า เวลานี้โมงยามแห่งการเปลี่ยนแปลงมาถึงแล้ว ไม่มีทางที่จะหวนคืนทุกอย่างกลับได้แล้ว ประชาชนตื่นรู้ทางการเมืองแล้ว และจะไม่ยอมกลับไปหาอดีตที่มืดมิดอีก นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของประเทศไทยที่จะเปลี่ยนแปลง โอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนตลอด 17 ปีที่ผ่านมา ไม่มีเวลาไหนที่ฉันทามติเพื่อการเปลี่ยนแปลงจะดังสนั่นทั้งแผ่นดินเท่าเวลานี้ เวลานี้เป็นเวลาแห่งการฝันใหญ่ ไม่ใช่เวลาแห่งการเจียมเนื้อเจียมตัว
“หน้าที่ของผมในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกลจบลงที่เวทีนี้ ต่อไปเป็นหน้าที่ของทุกคน ในวันที่ 14 พ.ค. ที่จะส่งพรรคก้าวไกลไปเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่งพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี” ธนาธรกล่าว
ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews
โพสต์โดย : monnyboy