เปิดตำนาน 'ทวารบาลติดฝิ่น' เทวดาผู้พิทักษ์ประตู เรื่องลี้ลับแห่งวัดบวรนิเวศวิหาร
เปิดตำนาน "ทวารบาลติดฝิ่น" เทวดาผู้พิทักษ์ประตู เรื่องลี้ลับแห่งวัดบวรนิเวศวิหาร
เซี่ยวกาง (เสี้ยวกาง) เป็นรูปเทวดาแบบจีนหนวดเครายาว ปิดทองเหลืองอร่าม มีตำนานอยู่ในลัทธิมหายานว่า เป็นจอมแห่งเทวดาผู้พิทักษ์ประตูวัด ปัจจุบันประตูนี้เปิดเฉพาะงานพระราชพิธี โอกาสพิเศษหรือวันธรรมสนะเท่านั้น
ประตูเซี่ยวกาง (เสี้ยวกาง) หรือ ทวารบาล เป็นซุ้มประตูใหญ่ของกำแพงด้านหน้าพระอาราม มีลักษณะเลียนแบบศิลปะจีน หลังคาซุ้มมุงกระเบื้องกาบกล้วย หน้าบันประดับด้วยกระเบื้องเคลือบลายดอกพุดตานใบเทศ กลางหน้าบันเป็นลายหน้าขบคายเถาดอกพุดตาน หน้าต่าง ๒ ข้างประดับด้วยกระเบื้องปรุ บานประตูสลักเป็นอารักษ์ทวารบาลแบบที่เรียกว่า
เซี่ยวกาง (เสี้ยวกาง) เป็นรูปเทวดาแบบจีนหนวดเครายาว ปิดทองเหลืองอร่าม มีตำนานอยู่ในลัทธิมหายานว่า เป็นจอมแห่งเทวดาผู้พิทักษ์ประตูวัด ปัจจุบันประตูนี้เปิดเฉพาะงานพระราชพิธี โอกาสพิเศษหรือวันธรรมสนะเท่านั้น
มีเรื่องเล่ากันว่า วันนึงทางวัดได้มีการพบศพชาวจีน จึงจัดพิธีกงเต็กให้ ไม่นานชายจีนคนนั้นก็ได้มาเข้าฝันสมเด็จท่านเจ้าอาวาส ขอให้ทำที่อยู่ให้ แล้วตนจะคอยเฝ้าดูแลวัดให้เป็นอย่างดี ทางวัดจึงสร้างกำแพงทำซุ้มประตู แล้วอัญเชิญดวงวิญญาณชาวจีนมาสถิตอยู่ ณ ประตูแห่งนี้
หลังจากนั้นไม่นานก็มีข่าวลือกันหนาหูว่า ของในวัดได้ถูกขโมยไปหลายครั้ง แต่ทุกครั้งล้วนได้กลับคืนมาทั้งหมด โดยไม่ทราบสาเหตุ หลายคนจึงเชื่อว่าเป็นเพราะดวงวิญญาณของชายจีน ทำให้เกิดการบูชาทวารบาลขึ้น ซึ่งเชื่อกันว่า ถ้าบนอะไรแล้ว หากได้ตามที่ขอ จะต้องนำฝิ่นมาป้ายปาก และนำโอเลี้ยงหรือโอยั๊วะมาแขวนบูชาแก้บน
ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:thaiza.com
โพสต์โดย : monnyboy