Social :



เที่ยวเกาะเต่าให้สบายใจ มีสิ่งไหนต้องรู้ ?

04 ต.ค. 59 23:10
เที่ยวเกาะเต่าให้สบายใจ มีสิ่งไหนต้องรู้ ?

เที่ยวเกาะเต่าให้สบายใจ มีสิ่งไหนต้องรู้ ?

   เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี กับเรื่องที่ควรรู้ก่อนวางแผนไปเยือน และมีไฮไลท์เด็ดอะไรที่ไม่ควรพลาดบ้างเช็กเลย

          เกาะเต่า ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวน่าไปเยือน เพราะด้วยวิวที่สวยงาม แถมยังน้ำทะเลสวยใสไม่แพ้ที่เที่ยวอื่น ๆ นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้เกาะสำคัญอย่างเกาะสมุยและเกาะพะงันอีกด้วย วันนี้เราเลยแวะมาบอกเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเกาะเต่า กับเรื่องที่ควรรู้พร้อมไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องที่คุณยังไม่รู้กันค่ะ ส่วนจะมีข้อไหนน่าสนใจบ้างนั้นตามไปชมกันเลย

          ● 1. เกาะเต่า อยู่ในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นหนึ่งตำบลที่ขึ้นอยู่กับอาณาเขตของอำเภอเกาะพะงัน

          ● 2. เกาะเต่าอยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดชุมพร ประมาณ 74 กิโลเมตร ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมาณ 110 กิโลเมตร ห่างจากเกาะสมุยประมาณ 64 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเกาะพะงัน ประมาณ 45 กิโลเมตร

          ● 3. เกาะเต่าและเกาะนางยวนอยู่ห่างกันเพียง 480 เมตร โดยเกาะเต่ามีเนื้อที่ประมาณ 21 ตารางกิโลเมตร ลักษณะตัวเกาะมีรูปร่างความคล้ายเมล็ดถั่ว

          ● 4. พื้นที่เกือบทั้งหมดของเกาะเต่าเป็นภูเขาและมีอ่าวมากถึง 11 อ่าว และมีแหลมถึง 10 แหลม แถมยังมีชายหาดสวยไว้เล่นน้ำอีกหลายแห่งอีกด้วย

          ● 5. เกาะเต่ามีชายฝั่งยาว 28.6 กิโลเมตร และมีแนวปะการังยาวถึง 8 กิโลเมตร ซึ่งสภาพปะการังมีความกว้างเฉลี่ยถึง 200 เมตร

          ● 6. ชื่อของเกาะเต่ามาจากในอดีตบริเวณชายหาดรอบ ๆ เกาะจะเต็มไปด้วยเต่าทะเลที่จะออกมาหากินพร้อมใช้พื้นที่บนเกาะในการวางไข่จนกลายเป็นที่มาของชื่อเกาะเต่า

 ภาพจาก Takashi Images / shutterstock.com

          ● 7. เกาะเต่าอยู่ห่างไกลจากฝั่งมากที่สุดในบรรดาเกาะที่อยู่ในย่านเดียวกัน

          ● 8. เดินทางไปเกาะเต่าได้หลากหลายวิธี ทั้งนั่งรถประจำทางสายกรุงเทพฯ-ชุมพร กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี กรุงเทพฯ-เกาะสมุย และกรุงเทพฯ-เกาะพะงัน

          ● 9. นั่งรถไฟสโลวไลฟ์ไปเกาะเต่า เป็นอีกหนึ่งวิธีแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักในการท่องเที่ยวแบบไม่รีบร้อน จากกรุงเทพฯ ไปยังชุมพรและสุราษฎร์ธานีทุกวัน ทั้งรถธรรมดา รถเร็ว รถด่วน และรถด่วนพิเศษ

          ● 10. บินลัดฟ้าชิล ๆ ด้วยการนั่งเครื่องบินไปเกาะเต่าในเส้นทางกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี, กรุงเทพฯ-เกาะสมุย ก็ดีเลิศไม่น้อย

          ● 11. เดินทางบนบกและอากาศ และที่ขาดไม่ได้คือทางเรือ เพราะเราต้องใช้บริการเรือโดยสารเดินทางไปเกาะเต่า ซึ่งมีให้เลือกทั้งเรือด่วน (express boat), เรือนอน, เรือธรรมดา และเรือเร็ว (Speed Boat)

          ● 12. ย่านที่พักที่สะดวกในการเดินทางคือบริเวณอ่าวแม่หาด, หาดทรายรี และอ่าวโฉลกบ้านเก่า หากที่พักอยู่ไกลต้องแจ้งให้เจ้าของที่พักติดต่อเหมาเรือให้ เพราะบางหาดไม่มีถนนที่เข้าถึง


          ● 13. จุดห้ามพลาดอันดับหนึ่งเมื่อไปเที่ยวเกาะเต่า คือจุดชมวิวจอห์น-สุวรรณ อยู่บริเวณโฉลกบ้านเก่าทางตอนใต้ของเกาะเต่า ความพิเศษของที่นี่คือสามารถชมวิวมุมสูงของสันเขาได้ 180 องศา ที่กั้นระหว่างสองชายหาดเป็นมุมเว้าอย่างสวยงาม

          ● 14. จุดห้ามพลาดอันดับสองคืออ่าวแม่หาดและหาดทรายรี เป็นชายหาดยาวต่อเนื่องกัน
MulticollaC
และจัดว่าเป็นชายหาดที่สวยที่สุดบนเกาะเต่า 

          ● 15. ควรไปลานหิน จ.ป.ร. ตั้งอยู่บริเวณหาดทรายรีทางด้านตะวันตกของเกาะเต่า เป็นสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อไว้บนแผ่นหินครั้งเสด็จประพาสที่เกาะเต่า เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 1899 ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวเกาะเต่าตั้งแต่สมัยโบราณจนปัจจุบัน

          ● 16. จุดชมวิวสูง ๆ มีเส้นทางเดินเท้าที่ค่อนข้างชัน นักท่องเที่ยวต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และควรสวมรองเท้าผ้าใบเพื่อความปลอดภัย

          ● 17. ศูนย์กลางความเจริญของเกาะอยู่ที่บริเวณอ่าวแม่หาด ถนนทุกสายมุ่งตรงสู่อ่าวแม่หาด และหากต้องการใช้บริการสถานีอนามัยและสถานีตำรวจ สามารถเดินทางมาได้ที่บริเวณอ่าวแม่หาดได้เลย

          ● 18.  การเดินทางเที่ยวบนเกาะเต่า มีทั้งเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขับเที่ยว ราคา 200 บาท/วัน (ควรเลือกเช่ารถจากร้านที่น่าเชื่อถือได้ หรือสอบถามร้านเช่าจากที่พักจะดีที่สุด) หากไม่ชำนาญการขับรถควรใช้บริการรถสองแถว เพราะถนนบางช่วงเป็นลูกรังและขึ้นเขา และถ้าต้องเดินทางไกลบนเกาะก็มีบริการเรือหางยาว มีทั้งให้เช่าเป็นรอบหรือเหมาทั้งวัน

          ● 19. นอกจากเดินเที่ยวริมชายหาดทรายรีแล้ว ใกล้ ๆ กันยังมีอุทยานหอยมือเสือ ซึ่งเป็นศูนย์เพาะเลี้ยงหอยมือเสือและมีสัตว์ทะเลให้ชมหลายชนิด และจากหาดทรายรีก็สามารถมองเห็นเกาะนางยวนได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกสวยงามในเกาะเต่าอีกด้วย


          ● 20. ร้อยละ 90 ของนักท่องเที่ยวที่มาเกาะเต่าคือมาดำน้ำ ชมปะการังที่อุดมสมบูรณ์ติดอันดับแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงของโลก สมกับฉายาที่ว่า  "เกาะสวรรค์กลางทะเลอ่าวไทย"  สามารถเลือกรูปแบบการเที่ยวได้ทั้งดำน้ำตื้น (Skin Diving) และการดำน้ำลึก (Scuba Diving)

          ● 21. บนเกาะเต่ามีโรงเรียนสอนดำน้ำหลายหลักสูตร และมีหลายโรงเรียนที่ได้รับใบรับรองจากสถาบันดำน้ำนานาชาติ

          ● 22. ที่พักเกาะเต่ามีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ ทั้งรีสอร์ท บ้านพัก และบังกะโล สามารถพักได้ทั้งบนเกาะเต่าและเกาะนางยวน คลิกดูเพิ่มเติมได้จาก ที่พักเกาะเต่า เกาะนางยวน วิวสวย ๆ สวรรค์แห่งการพักผ่อน

          ● 23. เกาะนางยวน อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า ต้องเสียค่าเข้าเกาะสำหรับคนไทย 30 บาท ส่วนชาวต่างชาติ 100 บาท เดินทางด้วยเรือหางยาวจากอ่าวแม่หาดไปประมาณ 15 นาที

          ● 24. ถ้าอยากเจอฉลามให้เดินทางไปที่บริเวณหาดเทียนออก เพราะที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นหาดที่เห็นฉลามได้ง่ายที่สุด สามารถเช่าอุปกรณ์ดำน้ำตามร้านริมหาด แล้วว่ายน้ำออกไปราว 10 เมตร ก็จะเห็นฉลามตั้งแต่ขนาด 1 ฟุต ไปจนถึง 1 เมตร แต่ถ้าอยากชมฉลามครีมดำให้ไปที่เกาะกงทรายแดงหรือเกาะฉลาม ซึ่งฉลามที่นี่จะว่ายเข้ามาให้ชมอย่างใกล้ชิดโดยไม่ทำร้ายนักท่องเที่ยว

          ● 25. จะไปเที่ยวเกาะเต่าต้องวางแผนทริปให้ดี ๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 0 7728 8818 หรือเทศบาลตำบลเกาะเต่า ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 077 601 981-2

          ถือเป็นอีกหนึ่งคู่มือแนะนำสำหรับเพื่อนที่กำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวเกาะเต่า หนึ่งในเกาะท่องเที่ยวยอดฮิตที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม ปะการังที่อุดมสมบูรณ์จนกลายเป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงทั่วโลกอีกด้วย เห็นทีจะอดใจไม่ไหวถ้าอย่างนั้นอย่ารอช้ารีบแพ็กกระเป๋าแล้วเดินทางไปเยือนเกาะเต่า พาราไดซ์แห่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีกันดีกว่า

            หมายเหตุ :  ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 8 กรกฎาคม 2559

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
thai.tourismthailand.org, tatcontactcenter.com, thaidive.com

โพสต์โดย : nampuengeiei9760