เอาผิดทางวินัยอาญา ไม่มีละเว้น! พักราชการ”บิ๊กสรรพสามิต”โทรเคลียร์น้ำมันเถื่อน

สั่งพักราชการ “บิ๊กสรรพสามิต” โทรเคลียร์รถบรรทุกน้ำมันเถื่อน อธิบดีฯยืนยัน เอาผิดทางวินัยอาญา ไม่มีละเว้น

 

 

ความคืบหน้ากรณีกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิตประจวบคีรีขันธ์จับกุมคนขับพร้อมรถบรรทุกน้ำมันดีเซล 15,000 ลิตร และต่อมามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมสรรพสามิตรายหนึ่ง โทรศัพท์มาขอเจรจาไม่ให้ดำเนินคดีจนกลายเป็นข่าวโด่งดังและนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต สั่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน

 

ล่าสุด วันนี้ นายเกรียงไกร พัฒนาภรณ์ โฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเรื่องดังกล่าวมีมูล โดยที่มีการกล่าวอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมสรรพสามิต โทรมาเจรจาเพื่อไม่ให้ดำเนินคดี ซึ่งจากการสืบสวนข้อเท็จจริงพบว่าบุคคลดังกล่าว มีตำแหน่งเป็นระดับ“ผู้อำนวยการ”ซึ่งได้มีการสั่งพักราชการ ไปตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.2566 และเตรียมดำเนินการเอาผิดทางวินัยร้ายแรงต่อไป

 

นายเกรียงไกร เปิดเผยอีกว่า ได้มีการทำหนังสือไปถึงตำรวจทางหลวงเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อมาขยายผลเอาผิดกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่าได้รับหลักฐานเป็นบันทึกเสียงสนทนาเรื่องน้ำมันเถื่อนคดีนี้ที่เชื่อมโยงไปถึงข้าราชการระดับสูงในกรมสรรพสามิตคนหนึ่งชื่อเล่นว่า“ยุทธ”ถ้ามีหลักฐานเอาผิดได้จะดำเนินการทั้งหมด โดยอธิบดีได้สั่งการชัดเจนไม่มีละเว้นและให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม แนวทางดำเนินการกับเรื่องนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เกี่ยวข้อกับกรมสรรพสามิต คือ การสั่งพักงานและดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ระดับผู้อำนวยการขณะที่หากพบว่ามีหลักฐาน พยาน ชัดเจนว่า มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้าไปเกี่ยวข้อง เช่น ระดับรองอธิบดีสรรพสามิต ก็ต้องมีการเสนอไปที่กระทรวงการคลังเพื่อเอาผิดตามระเบียบราชการต่อไป

 

สำหรับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรถบรรทุกน้ำมันดีเซล 15,000 ลิตร จากการตรวจสอบพบว่า เป็นรถที่มีการบรรทุกน้ำมันเถื่อนจริง ในส่วนของกรมได้ดำเนินการจับเรียกเทียบปรับกับนายสมบัติ(คนขับ) ตามที่ปรากฏในข่าวเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเช่นกัน

 

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews