Social :



รอคอยความเปลี่ยนแปลง “ภูมิธรรม”ย้ำหลักการพรรคอันดับ1เป็นปธ.สภา-แต่ยังไม่สรุป

19 มิ.ย. 66 12:06
รอคอยความเปลี่ยนแปลง “ภูมิธรรม”ย้ำหลักการพรรคอันดับ1เป็นปธ.สภา-แต่ยังไม่สรุป

รอคอยความเปลี่ยนแปลง “ภูมิธรรม”ย้ำหลักการพรรคอันดับ1เป็นปธ.สภา-แต่ยังไม่สรุป

“ภูมิธรรม”ย้ำหลักการให้พรรคอันดับ 1 เป็นประธานสภาฯ แต่ยังไม่มีข้อสรุป รอกกต.รับรองส.ศ.ก่อน ชี้ประชาชน รอคอยความเปลี่ยนแปลงมากกว่าช่วงชิงตำแหน่ง
 
 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงกรณีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฏร ที่มีการตีความพรรคเพื่อไทย ยอมถอยให้พรรคก้าวไกล ว่า ตำแหน่งประธานสภา ยังไม่มีข้อสรุปใด ๆเพราะเพิ่งจะมีการพูดคุยไปเพียง 1-2 ครั้ง

 

ซึ่งความแตกต่างของทั้งพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย คือมี ส.ส. ต่างกันไม่มาก ในเบื้องต้นได้มีการตกลงกันตามที่ตนเสนอว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีควรจะได้ในจำนวนที่เท่าๆ กัน 14 คน โดยพรรคก้าวไกล เป็นประมุขฝ่ายบริหาร เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ที่เป็นพรรคอันดับ 2 ในขณะนั้น ก็ควรจะได้ตำแหน่งประธานสภาถือว่ามีความเท่าเทียมกัน

 

ทำให้ผู้สนับสนุนสามารถมองได้ว่า เป็นความร่วมมือกันระหว่างพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และไม่มีความคืบหน้าใดๆ อีก จนนายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกลออกมาแสดงความคิดเห็น และจองตำแหน่งประธานสภา จะต้องเป็นของพรรคก้าวไกลเท่านั้น ตนเองจึงได้ตำหนิไปว่า เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว แต่ความเป็นจริงจะต้องรอให้ตัวแทนทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยกันได้ชัดเจนก่อน

 

ดังนั้นเมื่อยังไม่มีความชัดเจน การออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ ขณะนี้ โดยมารยาททางการเมืองนั้น ไม่มีผู้ใดกระทำกัน และเมื่อเป็นข้อพิพาทระหว่าง 2 พรรคการเมืองจึงควรยุติเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เรื่องอื่นๆ ที่สำคัญกว่า โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาล สามารถดำเนินการต่อไปได้

 

ทั้งนี้ นายภูมิธรรม กล่าวย้ำในหลักการว่า ตำแหน่งประธานสภา พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งอันดับ 1 ควรครองตำแหน่งประธานสภา และพรรคอันดับ 2 หากคะแนนเสียง ส.ส. ห่างกันไม่มากก็ควรได้ครองตำแหน่งรองประธานสภา ทั้ง 2 ตำแหน่ง

 
MulticollaC

ซึ่งตนเองไม่ได้ระบุว่า จะมอบตำแหน่งประธานสภา ให้กับพรรคการเมืองใด หรือ ส.ส. คนใด เพราะในทางปฏิบัติ จะต้องพูดคุยในรายละเอียดร่วมกันก่อนแต่ขณะนี้เพื่อไทย เป็นพรรคอันดับ 2 ซึ่งการเป็นพรรคการเมืองอันดับ 2 ที่ผ่านมามักจะมีการตั้งรัฐบาลแข่ง แต่พรรคเพื่อไทย ก็ไม่ได้กระทำ เพราะคำนึงว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการความปลี่ยนแปลงและเมื่อพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยมารวมกันได้ 312 เสียง โดยที่พรรคก้าวไกล มีประมาณ 150 เสียง

 

ดังนั้นจึงต้องถ้อยที ถ้อยอาศัย และรอการรับรองผลการเลือกตั้งจาก กกต. ก่อน เพื่อให้ทราบว่า พรรคการเมืองใด จะชนะการเลือกตั้งลำดับที่ 1 ที่ชัดเจน กระบวนการพูดคุยระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจึงจะเริ่มต้น ซึ่งหลัง กกต.รับรองการผลเลือกตั้งแล้ว ก็ยังมีเวลาอีก 15 วัน ก่อนจะมีรัฐพิธี และขั้นตอนการเลือกประธานสภา

 

ส่วน กรณี นายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทำความเข้าใจแล้ว หรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่มีเรื่องใดเลยเถิด และจะต้องรอให้เจ้าตัวมาชี้แจงหลังจากนี้ เพราะได้ย้ำเพียงหลักการ
จึงขออย่างเพิ่งมีการตีความใดๆ

 

เมื่อถามว่า มีรายงานพรรคก้าวไกล จะเปิดชื่อบุคคลที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งประธานสภา นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลคิด แต่ยังไม่ใช่ข้อตกลงร่วมของทั้ง 2 พรรค เพื่อไทยเอง ก็ยังไม่ได้เตรียมบุคคล เพราะยังไม่มีความชัดเจนใด ๆ จะต้องให้ได้ข้อสรุปจากทั้ง 2 พรรคก่อน

 

ย้ำว่า 3 รายชื่อที่ของพรรคเพื่อไทย ที่มีการเปิดเผยไปก่อนหน้านี้ ก็เป็นเพียงการคาดการณ์ของสื่อมวลชนที่วิเคราะห์ตามประสบการณ์ หรือความเหมาะสม ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการกำหนดตัวบุคคลดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ หรือรัฐมนตรี และเห็นว่าควรจะเร่งพูดคุยถึงการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จมากกว่า.

 

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy