สุริยคราส หรือ สุริยุปราคา กับ ความเชื่อโบราณที่น่ากลัวอย่างยิ่งสำหรับคนไทยในสมัยก่อน
สุริยุปราคา เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่ากลัวอย่างยิ่งสำหรับมนุษย์ในสมัยโบราณ โดยเฉพาะสุริยุปราคาเต็มดวง เพราะคนในสมัยนั้น ยังไม่เข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดสุริยุปราคาที่แท้จริง การได้เห็นท้องฟ้ามืดมิดไปชั่วขณะทั้งๆ ที่เมื่อครู่ท้องฟ้ายังสว่างอยู่ ต่างก็เกิดความเกรงกลัวคิดว่าเป็นการลงโทษจากพระเจ้าหรือเทพยดาเบื้องบน การปฏิบัติที่แสดงความเคารพบูชาของมนุษย์ที่มีต่อปรากฏการณ์นี้จึงเกิดขึ้น โยมีแนวความคิดและการปฏิบัติแตกต่างกันไปตังอย่างเช่น
สำหรับ คนจีนในสมัยโบราณ คิดว่า สุริยุปราคา หรือ จันทรุปราคา เกิดจากมังกรไล่เขมือบดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ จึงต้องจุดประทัดและตีกลองไล่เพื่อให้มังกรคายดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ออกมา
ส่วนคนไทยในสมัยโบราณ เรียกปรากฏการณ์นี้ว่าเกิด "คราส" หรือ "สุริยคราส" (คราส แปลว่า กิน) ก็มีความเชื่อที่เกิดจากเทพองค์หนึ่งชื่อ "ราหู" เกิดความโกรธที่พระอาทิตย์และพระจันทร์ฟ้องร้องพระอิศวรว่า พระราหูกระทำผิดกฎของสวรรค์ คือแอบไปดื่มน้ำอมฤตที่ทำให้ชีวิตเป็นอมตะ พระอิศวรจึงลงโทษโดยตัดลำตัวราหูออกเป็น 2 ท่อน พระราหูจึงทำการแก้แค้นโดยการไล่ "อม" พระอาทิตย์และพระจันทร์ ดังนั้นเมื่อเกิดสุริยุปราคาหรือจันทรุปราคาครั้งใดผู้คนก็จะช่วยกันตีเกราะเคาะไม้ ตีปี๊บ หรือส่งเสียงดังๆ เพื่อขับไล่พระราหูให้ปล่อยดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เสีย นอกจากนี้คนไทยในสมัยโบราณยังเชื่ออีกว่า สุริยุปราคานำความโชคไม่ดีหรือลางร้ายมาสู่โลกเช่นเดียวกับการมาของดาวหาง
ความเชื่อเกี่ยวกับการเกิดสุริยุปราคา
ความเชื่อแบบนี้ดำเนินมาเป็นเวลานานนับร้อยๆ ปีจนกระทั่งนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการค้นคว้าและศึกษาถึงการเกิดปรากฏการณ์นี้ และได้อธิบายให้เห็นว่าสุริยุปราคาและจันทรุปราคาเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติตามปรกติ และมนุษย์สามารถคำนวนได้ล่วงหน้าว่าจะเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาเมื่อใด ที่ไหน และกินเวลานานเพียงใด
"ดวงอาทิตย์และดวงจันทรื เป็นสัญลักษณ์ของอัลลอฮฺ ทั้งสองจะไม่เกิดคราสเพราะความตายของผู้ใด และไม่ใช่เพราะการมีชีวิตอยู่ของผู้ใด เมื่อพวกท่านพบกับเหตุการณ์เช่นนี้ จงละหมาดและวิงวอนเถิด จนกว่าสิ่งที่เกิดกับพวกท่าน(คราส)จะคลายออก" (คำกล่าวของชาวมุสลิม)
** สุริยุปราคา หรือ สุริยคราส เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก โคจรมาเรียงอยู่ในแนวเดียวกันโดยมีดวงจันทร์อยู่ตรงกลาง เกิดขึ้นเฉพาะในวันที่ดวงจันทร์มีดิถีตรงกับจันทร์ดับ เมื่อสังเกตจากพื้นโลกจะเห็นดวงจันทร์เคลื่อนเข้ามาบดบังดวงอาทิตย์ โดยอาจบังมิดหมดทั้งดวงหรือบางส่วนก็ได้ ในแต่ละปีสามารถเกิดสุริยุปราคาบนโลกได้อย่างน้อย 2 ครั้ง สูงสุดไม่เกิน 5 ครั้ง ในจำนวนนี้อาจไม่มีสุริยุปราคาเต็มดวงเลยแม้แต่ครั้งเดียว หรืออย่างมากไม่เกิน 2 ครั้ง
โอกาสที่จะได้เห็นสุริยุปราคาเต็มดวงสำหรับสถานที่ใดสถานที่หนึ่งบนพื้นโลกนั้นค่อนข้างยาก เนื่องจากสุริยุปราคาเต็มดวงแต่ละครั้งจะเกิดในบริเวณแคบ ๆ ภายในแถบที่เงามืดของดวงจันทร์พาดผ่านเท่านั้น **
ที่มาจาก วิกิพีเดีย
โพสต์โดย : nampuengeiei9760