Social :



ไม่เอาพรรคแก้112 “เสรี” บอกเพื่อไทย ไม่ต้องมาคุย สว.แสดงจุดยืนชัดเจนแล้ว

24 ก.ค. 66 12:07
ไม่เอาพรรคแก้112 “เสรี” บอกเพื่อไทย ไม่ต้องมาคุย สว.แสดงจุดยืนชัดเจนแล้ว

ไม่เอาพรรคแก้112 “เสรี” บอกเพื่อไทย ไม่ต้องมาคุย สว.แสดงจุดยืนชัดเจนแล้ว

“เสรี” บอกเพื่อไทย ไม่ต้องมาคุย แสดงจุดยืนชัดเจนแล้ว ไม่เอาพรรคแก้ รธน.หมวด 1-2 กฏหมายที่กระทบสถาบัน
 
 

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย จัดคณะพูดคุยกับสมาชิกวุฒิสภา เพื่อพูดคุยหาทางออกวิกฤตประเทศ โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นหัวหน้าคณะเจรจา โดยเห็นว่าพรรคเพื่อไทย ไม่จำเป็นต้องมา เพราะจุดยืนของ สว. ชัดเจนแล้วว่า

 

 




หากมีพรรคการเมืองใด ที่จะแก้รัฐธรรมนูญในหมวดที่ 1 และหมวดที่ 2 หรือแก้ไขกฎหมายใดที่จะไปกระทบต่อสถาบันหลักของชาติ สว. ก็จะไม่สนับสนุน และหากมีการพูดคุยกับคณะเจรจาของพรรคเพื่อไทย ก็อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีบทบัญญัติถึงการทำหน้าที่ของ สว. ที่จะต้องไม่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง ดังนั้น จึงเห็นว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ต้องเดินทางมาพูดคุยกับ สว. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา

 

 

ส่วนหากการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่จะนำเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โดยพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน สว.จะสนับสนุนหรือไม่นั้น นายเสรี ระบุว่า กระบวนการพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก็จะต้องนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมตามปกติ พร้อมแนะนำให้พรรคเพื่อไทย

MulticollaC

 

 

รวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลให้เพียงพอ และมีนโยบายที่ไม่กระทบต่อสถาบันหลักของชาติ ก็เชื่อว่าสมาชิกวุฒิสภาพร้อมสนับสนุน เพราะมองว่า กระบวนการแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลนั้น เป็นข้ออ้างที่ใช้เป็นจุดเริ่มต้นเพืทอเป้าหมายที่ไกลกว่านั้น

 

 



นอกจากนี้ นายเสรี ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ควรจะเลื่อนออกไปก่อนหรือไม่ หลังกระบวนการเจรจาพูดคุยของพรรคเพื่อไทยยังไม่เสร็จสิ้น โดยระบุเพียงว่า สว. ไม่มีความขัดข้องว่าจะมีการประชุมให้เลือกนายกรัฐมนตรีในวันใด แต่ขอให้พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลไปพูดคุยตกลงกันให้ได้ข้อสรุปก่อน

 

 

ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เตรียมเปิดเผยข้อมูลลับของนายเศรษฐา ในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) จะมีผลต่อการตัดสินใจลงมติให้ความเห็นชอบหรือไม่นั้น นายเสรี ระบุว่า จะต้องไปพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือ เพราะหากมีการฟังความข้างเดียวก็อาจไม่เป็นธรรม ดังนั้น จะต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน

 



ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy