พร้อมแถลงยอมรับกับประชาชน “ภูมิธรรม” พร้อมขอโทษ-ขอขมาก้าวไกลก้าวข้ามวิกฤติ

“ภูมิธรรม” พร้อมขอโทษ-ขอขมาก้าวไกล เพื่อก้าวข้ามวิกฤติประเทศ ย้ำเพื่อไทยพร้อมทำการเมืองแบบใหม่ คุยทุกกลุ่ม ชี้ หากตั้งรัฐบาลไม่ได้พร้อมแถลงยอมรับกับประชาชน

 

 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยนัดพูดคุยกับพรรคก้าวไกลตามที่นางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ออกมาระบุนั้น ว่า เราได้เน้นย้ำปัญหาของประเทศชาติ 3 เรื่อง คือ วิกฤติรัฐธรรมนูญ วิกฤติเศรษฐกิจประเทศ ปากท้องประชาชน และวิกฤติการแบ่งสีแบ่งพวก

 

 

ฉะนั้นตอนนี้เป็นโอกาสที่จะใช้เวทีหันหน้าพูดคุยกันเพื่อคลี่คลายปัญหาวิกฤติของประเทศไปให้ได้การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ จึงเคยเสนอว่าเป็นการจัดตั้งรัฐบาลที่พิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาประเทศ ไม่ใช่การเปลี่ยนขั้วแต่เป็นการสลายขั้วทั้งหมด ฉะนั้นอยากให้ทุกคนร่วมกันหาทางออก ซึ่งเป็นโอกาสที่จะทำให้ความขัดแย้งต่างๆที่มีอยู่มา 20 กว่าปีสลายไป

 

 

และยังเป็นโอกาสที่เข้ามาแก้ไขวิกฤติรัฐธรรมนูญ และแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน ฉะนั้นความสำเร็จจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ดึงทุกฝ่ายทุกพรรคมารวมกันครั้งนี้พรรคเพื่อไทยได้โอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราก็เสนอบุคคลมาชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คือ นายเศรษฐา ทวีสิน ด้วยความหวังที่จะเป็นแกนกลางที่จะดึงทุกฝ่ายเข้ามาร่วมกัน แถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทยชัดเจนว่าต้องการทุกพรรคทุกฝ่าย ไม่ว่าฝ่ายไหน กลุ่มไหน

 

 

ทั้งสว.และสส.แบบเป็นรายบุคคลมาร่วมกันสนับสนุน เห็นชอบให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และให้นายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะมาเร่งแก้ไขวาระแรกที่พูดคือ แก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะให้เกิด สสร. เป็นตัวกลางในการร่างรัฐธรรมนูญ และขับเคลื่อนนโยบาย เศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และบางเรื่องเป็นนโยบายที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยตรงกัน รวมถึงทุกพรรคที่เป็นนโยบายที่ดี พรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะสนับสนุน

 

 

นายภูมิธรรม ย้ำว่า นี่เป็นมิติการเมืองแบบใหม่ที่ไม่ได้มีแค่ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลที่จะต้องขัดแย้งกันทุกเรื่อง หากเราเห็นว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านเสนอเป็นสิ่งที่ดีเราก็จะมาปฏิบัติ ซึ่งเมื่อเป็นจุดยืนแบบนี้พรรคเพื่อไทย จึงต้องเข้าหาทุกฝ่าย นำมาสู่การแถลงจับมือกับ 6 พรรคร่วมรัฐบาลในวันนี้ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ต่อสายหานายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ พรรคชาติพัฒนากล้า

 

 

ส่วนอีกพรรคหนึ่งคือพรรคเพื่อไทยรวมพลังที่หัวหน้าพรรคอาจไม่ได้มาร่วมแถลงข่าว เนื่องจากติดภารกิจอยู่ต่างจังหวัด เราได้ชี้แจงไปว่าการแถลงข่าวในวันนี้ไม่ได้สิ้นสุด

 

 

ทั้งนี้นายภูมิธรรม ย้ำว่า สำหรับพรรคก้าวไกลเราได้ติดต่อประสานงานและอยากจะไปใช้เวทีครั้งนี้พูดคุยวาระสำคัญของประเทศขณะนี้เราจะสามารถร่วมมือกัน เพื่อให้บรรลุความสำเร็จได้ เราจึงอยากให้เขามาร่วมแสดงเจต์จำนงในครั้งนี้ด้วย ย้ำว่า ไม่ว่าอะไรที่เคยเกิดและเป็นปัญหาอาจจะมีส่วนมาจากพรรคเพื่อไทย

 

 

หรืออาจจะมีส่วนจากตัวเอง เรายินดีขอโทษ ขอขมา และเรายินดีที่จะไปแสดงความต้องการและความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับการหาทางออกวิกฤติในครั้งนี้ แม้ว่าจะเรียกเราไปคุยก็ยินดี ฉะนั้นพรรคก้าวไกลขณะนี้ อยู่ระหว่างพูดคุยและนัดเวลากัน อาจจะเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้

 

 

นายภูมิธรรม ระบุว่า วันนี้เราคิดเรื่องใหญ่ของประเทศเป็นหลัก เราไม่ได้คิดเรื่องเล็กน้อยหรือตัวบุคคล ย้ำว่า จะทำงานใหญ่ต้องคิดใหญ่ มองข้ามความขัดแย้งเดิมๆ ไม่ว่าจะเรื่อง “ไล่หนูตีงูเห่า” เพราะสิ่งสำคัญต้องเอาวาระประเทศ

 

 

ส่วนเท่าที่มีการสื่อสารไปยังพรรคก้าวไกลมีการตอบรับมาอย่างไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า วันนี้เราติดต่อทุกพรรคได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในจุดเริ่มต้น แต่ยังมีปัญหาในเรื่องของรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจกัน ฉะนั้นเราต้องแสดงความจริงใจ และยืนยันในเจตจำนง ตอนนี้ ตัวเลขทางคณิตศาสตร์เห็นชัดเจนอยู่แล้ว หากพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็มีทางเลือกอยู่ไม่กี่ทาง

 

 

แล้วหลายทางเลือกที่ทำให้รัฐบาลตั้งได้โดยยึดวาระประเทศเป็นที่ตั้งก็มีความจำเป็นที่ต้องยึดทางใดทางหนึ่ง ซึ่ง ทุกอย่างมีต้นทุนที่ต้องจ่าย และบางเรื่อง อาจเป็นเรื่องที่ประชาชนไม่สบายใจ แต่วันนี้พรรคเพื่อไทยยอมทุกอย่างที่จะทำ และหวังว่าจะพิสูจน์ด้วยการทำงาน ทั้งนายกรัฐมนตรีของพรรค และประสบการณ์ของพรรค

 

 

เชื่อว่าจะฝากวิกฤตครั้งนี้ไปได้ โดยเอาทุกนโยบายของพรรคเพื่อไทยมาทำให้ประชาชน ฉะนั้นขอย้ำอีกครั้งว่าเรายินดีร่วมกับทุกพรรค ไม่ว่า จะเป็นฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายอิสระ แต่เรามีแค่เรื่องเดียวคือเรื่อง 112 ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันหลักเราจะไม่เกี่ยวข้อง ถ้ามีการเสนอเรื่องนี้มาเราคงเข้าร่วมไม่ได้

 

 

นายภูมิธรรม ยังย้ำในประเด็นที่พรรคเพื่อไทยรวมพลังออกมาระบุว่าจะไม่ร่วมรัฐบาล ว่า วันนี้เท่าที่คุยยังไม่มีใครบอกว่าจะไม่ร่วม แต่ขอฟังในรายละเอียด ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ เพราะทุกคนต้องเข้าใจ พิจารณาไตร่ตรองว่าจะไปด้วยกันได้ และเกิดประโยชน์กับประเทศชาติจริงๆ หากเอาวาระประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้งหลายฝ่ายยอมรับได้ แต่ยอมรับว่าการยอมรับมีหลายระดับ อันดับแรกคือการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนนโยบายที่ไม่ตรงกันค่อยมาคุยกัน

 

 

 

ในช่วงท้ายนายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่ได้เรียกร้องเฉพาะพรรคก้าวไกลแต่เรียกร้องทุกฝ่าย ทั้งรายบุคคล กลุ่มการเมือง และพรรคการเมืองทุกพรรค ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยพิสูจน์ว่าทำไม่ได้ประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสิน และหากวันใดที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เราก็จะแถลงยอมรับกับประชาชน

 

 

 

ส่วนจะเรียกแนวทางการขอเสียงโหวตนายกรัฐมนตรีโดยไม่เข้าร่วมรัฐบาลอย่างไรนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า จากที่คุยไม่มีใครเรียกร้องขอตำแหน่ง ซึ่งจะเห็นว่าการตั้งรัฐบาลครั้งนี้ของพรรคเพื่อไทยไม่เคยคุยเรื่องโควต้ากระทรวง เพราะมุ่งมั่นที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ และแก้ไขปัญหาวิกฤติประเทศ ด้วยการได้นายกรัฐมนตรี ซึ่งอันนี้พรรคเพื่อไทยยึดถือเป็นแนวทางให้คณะเจรจาไปพูดคุยกับพรรคร่วมเพื่อจัดตั้งรัฐบาล

 

 

 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะเป็นไปได้อย่างไร ที่จะขอเสียงสนับสนุนแต่ไม่เข้าร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรม ระบุว่า หากคิดแบบกระบวนการแบบเก่าก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่หากคิดแบบกระบวนการใหม่เอาความขัดแย้งตั้งแต่ปี 49 จนวันนี้เกือบ 20 ปีเป็นที่ตั้งไม่ต้องพูดเรื่องตำแหน่งโควต้า แต่พูดเรื่องการทำรัฐธรรมนูญให้เป็นแบบปกติก็เป็นไปได้

 

 

 

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคก้าวไกลจะกลับมาร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรม ระบุว่า ถามตัวเองไม่ได้ ต้องถามปรากฏการณ์ที่ตัวเองพูด มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร พอถึงวันนั้นค่อยตัดสินใจร่วมกัน

 

 

 ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews