Social :



จับตาตัวบุคคล “เสรี” มอง “อุ๊งอิ๊ง” นำทีมพบก้าวไกลมีอะไรมากกว่าที่เห็น

10 ส.ค. 66 12:08
จับตาตัวบุคคล “เสรี” มอง “อุ๊งอิ๊ง” นำทีมพบก้าวไกลมีอะไรมากกว่าที่เห็น

จับตาตัวบุคคล “เสรี” มอง “อุ๊งอิ๊ง” นำทีมพบก้าวไกลมีอะไรมากกว่าที่เห็น

“เสรี” มอง “แพทองธาร” นำทีมพบก้าวไกลมีอะไรมากกว่านั้น ปัดตอบโหวตแคนดิเดตเพื่อไทย บอกกำลังจับตาตัวบุคคล เชื่อ”ก้าวไกล-เพื่อไทย-ภูมิใจไทย”ยังยึดแต่หลักการตัวเอง ต้องง้อเสียง สว.
 
 

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นำแกนนำพรรคเพื่อไทย หารือกับแกนนำพรรคก้าวไกล เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.66) ว่า เป็นเรื่องการแสดงออกทาง การเมืองที่พรรคเพื่อไทยพยามจะหาแนวร่วมให้ได้มากที่สุด ซึ่งส่วนตัวต้องดูต่อไปว่าจะ รวมเสียงกันได้มากน้อยแค่ไหน

 

 


การที่แต่ละพรรคการเมืองจะตั้งนายกรัฐมนตรีได้เราก็ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย อยู่ที่ว่าแต่ละฝ่ายที่มีในแต่ละพรรค จะยืนอยู่บนหลักการของตนเองได้มากน้อยแค่ไหน ข้อเสนอและการตัดสินใจมีการเปลี่ยนไปมาตลอดในตอนนี้ สว. เราก็คงต้องคอยดูว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรครวมเสียงการเมืองให้ได้มากที่สุด ถ้ามันสามารถที่จะรวมเสียงของก้าวไกลได้ด้วย มันก็ไม่ต้องมาพึ่งพาอาศัยเสียงของ สว. ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคจะยืนหยัดในหลักการในจุดยืนของตัวเองอย่างไร

 

 

ส่วนฝั่ง สว. ไม่ติดเลยใช่หรือไม่ หากจะมีการรวมเสียงพรรคก้าวไกลมาให้พรรคเพื่อไทยในการโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป นายเสรี ระบุว่า ตนไม่ขัดข้อง เพราะเป็นเรื่องที่แต่ละพรรคสามารถตกลงกันได้อยู่แล้ว และขึ้นอยู่กับว่าแต่ละพรรคจะแสดงออกกับประชาชน ไปบอกประชาชน ยืนในหลักการ และจะให้เหตุผลกับประชาชนว่าอย่างไร วันหนึ่งร่วม วันหนึ่งไม่ร่วม วันนี้กลับมาร่วม จะให้เหตุผลกับประชาชน หรือจะกลับไปกลับมาจนถึงวันลงคะแนนหรืออย่างไรก็ต้องมีความชัดเจนให้ประชาชนเขาเห็นก่อน


 

 

ส่วนมองว่าพรรคเพื่อไทยทำอยู่คือความชัดเจนใช่หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าความตั้งใจของเขาจะอยู่ระดับไหน แต่การแสดงออกทุกอย่างต้องมีเป้าหมาย และเป้าหมายที่จะทำก็คือต้องไม่ใช่ประโยชน์กับพรรคของตัวเอง ส่วนจะเป็นการลับลวงพรางหรือไม่ อาจจะมีการเชิญมาร่วมรัฐบาลภายหลัง นายเสรี กล่าวว่า เรื่องที่จะดึงพรรคก้าวไกลนั้น ไม่จำเป็นต้องเดินทางกันไป เดี๋ยวนี้ก็สามารถมีโซเชียลได้ สามารถโทรศัพท์ได้ สามารถทำการลับๆง่ายกว่า แต่ที่เดินทางถึงขนาดลงทุนไป ตนคิดว่ามันอาจจะมีอะไรมากกว่านั้น

MulticollaC
 

 

ส่วนข้อสันนิษฐานที่มากกว่านั้นคืออะไร นายเสรี กล่าวว่า อันดับแรกเป็นการสร้างความมั่นใจจะให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องใช้เสียง สว. แล้ว เพราะมีเสียงพรรคก้าวไกลช่วยอยู่ ก็อาจจะเป็นได้



 

 

นายเสรี กล่าวว่า การรวมพรรคแต่ละพรรคพรรคที่มีจำนวนมาก 3 พรรค ได้แก่พรรคภูมิใจไทย พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแปร หากใน 3 พรรคการเมืองนี้เสียงยังแตกอยู่ ยังต่างฝัก ต่างฝ่าย ยืนในหลักการของตัวเองอยู่ มันก็จะต้องใช้เสียง สว. แต่หากสามารถเป็นหลักในการรวมกันได้ ก็อาจจะได้ 376 เสียง ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลปรากฏคะแนนได้ชัดขึ้น

 

 


เมื่อถามว่าจะมีการโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ก็แล้วแต่และพรรคการเมือง ยังมีเวลา มีอนาคต อาจจะเปลี่ยนอีกคนหนึ่ง ก็เกิดขึ้นบ่อยๆ อยู่แล้วอยู่ที่ข้อมูลที่จะปรากฏในสาธารณะว่าเป็นคนที่มีคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม หรือนโยบายแนวทางอะไรที่ทำให้สังคมยอมรับได้ หรือไม่ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลที่เสนอชื่อ

 

 

ส่วนกังวลหรือไม่การพูดคุยกันระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ จะเป็นการปิดสวิตช์สว. นายเสรี ระบุว่าหากตกลงกันได้ก็ดี เพราะอย่างน้อยที่สุดมันก็เป็นเรื่องของ สส. ต้องไปจัดการกันเอง แล้ว สว. ก็พ้นภารกิจหน้าที่ตรงนี้ได้ไม่ยาก ขึ้นอยู่กับบรรดาพรรคการเมืองจะไปตัดสินใจที่จะรวมคะแนนกันอย่างไร ซึ่งมวลชนที่สนับสนุนแต่ละพรรคการเมืองก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยพรรคก้าวไกลก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

 

 

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy