Social :



ต้องรอฟังคำวินิจสัย “แสวง”บอก”พิธา”ต้องรอบคอบ ม.151ขึ้นอยู่กับศาล รธน.

20 ส.ค. 66 08:08
ต้องรอฟังคำวินิจสัย “แสวง”บอก”พิธา”ต้องรอบคอบ ม.151ขึ้นอยู่กับศาล รธน.

ต้องรอฟังคำวินิจสัย “แสวง”บอก”พิธา”ต้องรอบคอบ ม.151ขึ้นอยู่กับศาล รธน.

“แสวง”ชี้เลือกตั้งซ่อมระยองใช้ฐานข้อมูลเดิม เร่งประชาสัมพันธ์ให้คนมาใช้สิทธิ์ ไร้ข้อครหาใช้อำนาจรัฐ บอก”พิธา”ต้องรอบคอบ ม.151ขึ้นอยู่กับศาล รธน.
 

 

 

 

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จ.ระยอง ว่า การเลือกตั้งซ่อมใช้ฐานข้อมูลเดิมกับการเลือกตั้งทั่วไป ทั้งจำนวนหน่วยเลือกตั้ง และจำนวนประชากร แม้เวลาจะน้อยแต่ไม่กระทบกับการบริหารจัดการ กกต.จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากขึ้น ส่วนกรณีที่ผู้สมัคร มีเพียง 2 คน และเป็นการแข่งขันระหว่างขั้วการเมือง คงไม่มีปัญหาในการบริหารจัดการ การแข่งขันเป็นเรื่องกติกาซึ่งเราต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

 

 

โดยจะมีการใช้อำนาจรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ทุกการเลือกตั้งซ่อมมักมีคนกล่าวอ้างว่าใช้อำนาจรัฐ แต่ช่วงนี้เป็นช่วงรัฐบาลรักษาการเหมือนกับการเลือกตั้งทั่วไป ที่ผ่านมาก็ไม่มีข้อครหาเกี่ยวกับการใช้อำนาจรัฐ เราจะต้องดูแลให้การแข่งขันเป็นไปอย่างเสมอภาค เบื้องต้นยังไม่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา ทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย



 

 

 

ส่วนกรณีคำร้องยุบพรรคก้าวไกล จากเหตุมีนโยบายหาเสียงแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในชั้นสำนักงาน กกต.จะเป็นการดูแลข้อกฎหมาย ตนเองยังไม่ได้รับรายงานอะไร ส่วนอีกช่องทางคือการไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

 



Lif

 

 

นอกจากนี้กรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลฝาก 2 คำถามถึง กกต. จากกระแสข่าวว่า กกต.จะยกคำร้องในคดีอาญา มาตรา 151 รู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติรับเลือกตั้ง แต่ยังลงสมัครจากการถือหุ้นไอทีวี เรื่องนี้อยู่ในสำนวน เป็นไปตามกระบวนการ เมื่อ กกต.พิจารณาแล้วเสร็จจะส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญต่อไป พร้อมย้ำว่า กกต.ไม่ใช่ผู้ตัดสิน ผู้ตัดสินคือ ศาลรัฐธรรมนูญ

 

 


 

เมื่อถามถึงกรณีมาตรา 151 ของนายพิธา ต้องรอบคอบกว่าเดิมหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เรื่องมาตรา 151 เป็นคดีอาญาต้องพิสูจน์เจตนา ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะออกมาในทิศทางใด ส่วนที่นายพิธาตั้งคำถามว่าเหตุใด กกต.ถึงไม่เรียกเจ้าตัวมาชี้แจงนั้น ส่วนตัวไม่ทราบในกระบวนการของคณะกรรมการสอบสวน

 

 

 

เนื่องจากมอบให้ รองเลขาธิการ กกต.ดูแลเรื่องนี้ รู้เพียงว่ากระบวนการยังไม่จบ ตนเองจะรู้ก็ต่อเมื่อเสนอเข้าที่ประชุม กกต. และไม่สามารถใส่แทรกแซงหรือก้าวก่ายได้ หากมีลักษณะของการให้คุณให้โทษก็จะต้องเชิญมาชี้แจง ต่างจากกรณีลักษณะต้องห้ามที่เป็นเรื่องของตัวบุคคล ทั้งนี้ หากการสอบสวนยังไม่สิ้นกระแสความ ไม่ครบถ้วนครบประเด็นก็จะสามารถสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมได้ กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่าคณะอนุกรรมการฯ เสนอให้ยกคำร้องไป นายแสวง ระบุว่าไม่ทราบ และไม่เห็น

 

 ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy