Social :



รบ.ต้องเร่งรัดมาตรการกระตุ้น! กกร. เผย ศก.ในประเทศปีนี้อ่อนแรง โตเหลือ 2.5-3%

07 ก.ย. 66 19:09
รบ.ต้องเร่งรัดมาตรการกระตุ้น! กกร. เผย ศก.ในประเทศปีนี้อ่อนแรง โตเหลือ 2.5-3%

รบ.ต้องเร่งรัดมาตรการกระตุ้น! กกร. เผย ศก.ในประเทศปีนี้อ่อนแรง โตเหลือ 2.5-3%

กกร. เผย เศรษฐกิจในประเทศปีนี้อ่อนแรง โตเหลือ 2.5-3% รบ.ต้องเร่งรัดมาตรการกระตุ้นที่ได้ประกาศไว้โดยเร็ว
 

 
 

 

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการประจำเดือนกันยายน ว่า ที่ประชุมได้ประเมินเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่งผลให้ภาคการส่งออกของไทยยังมีอุปสรรคในการฟื้นตัว เศรษฐกิจในประเทศอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด




 
 

 

โดยในปีนี้มี แนวโน้มเติบโตได้ที่ ร้อยละ 2.5-3.0 ซึ่งต่ำกว่าประมาณการเดิม รายได้จากการท่องเที่ยวยังต่ำกว่าที่คาดเนื่องจากการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังต่ำกว่าปกติร้อยละ 13 และค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปของคนไทยในการเที่ยวในประเทศต่ำกว่าปกติร้อยละ 33

 


 

รัฐควรมีมาตรการเพื่อเร่งขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยในปี 2566 ยังสามารถเติบโตได้ระดับร้อยละ 3.0 การเร่งรัดมาตรการด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้ประกาศไว้จึงมีความจำเป็น ได้แก่ การลดภาระรายจ่ายค่าไฟและราคาน้ำมัน การผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านคน นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณามาตรการเพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนการส่งออกไปยังตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตได้ ขณะที่เร่งจัดทำมาตรการเพื่อเสริมสร้างรายได้ ให้กับ SMEs และครัวเรือนเพื่อแก้ปัญหาภาระหนี้ได้อย่างทั่วถึงและยั่งยืน

 

Lif
 

ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ กกร.ได้มีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจลงเหลือร้อยละ 2.5-3.0 จากเดิม ร้อยละ 3.0-3.5 การส่งออกติดลบ ร้อยละ 2 ถึง 0.5 จากเดิมคาดว่าจะติดลบร้อยละ 2-0 เงินเฟ้อขยายตัวร้อยละ 1.7-2.2 จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.2-2.7



 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม กกร. มีความกังวลกับสถานการณ์ด้านการค้าระหว่างประเทศที่ส่งผลให้การส่งออกของไทยชะลอตัว ประกอบกับสินค้าราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐานทะลักเข้ามาแข่งขันด้านราคาในตลาดไทย ทำให้ภาคอุตสาหกรรมไทยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยเบื้องต้นมี 20 กลุ่มอุตสาหกรรม ที่มียอดขายลดลง และหากไม่มีมาตรการกำกับดูแลสินค้านำเข้าดังกล่าว




 

 

 

ผลกระทบอาจจะขยายวงกว้างไปมากกว่านี้ ดังนั้น กกร. จึงเสนอขอให้ภาครัฐเข้มงวดในการตรวจจับสินค้านำเข้าที่ไม่ได้มาตรฐานโดยผ่านกลไกจากทั้ง สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และกรมศุลกากร โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ ในขณะเดียวกันควรต้องมีการสนับสนุนผู้ส่งออก อำนวยความสะดวกให้พิธีการศุลกากรมีความคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้น

 


ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy