‘ผบ.เรือนจำกลางราชบุรี’ เฉลยสาเหตุทำไม ‘โบ๊ท’ โผล่เป็นมือทิ้งเซิร์ฟเวอร์กำนันนก

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 10 ก.ย. “ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์” ได้รับการเปิดเผยจากนายเกียรติกร ปัทมทัตต์ ผบ.เรือนจำกลางราชบุรี ว่า สำหรับนายโบ๊ท ธิตินันท์ เป็นพนักงานราชการที่มีสัญญาปีต่อปีกับเรือนจำฯ เนื่องจากตอนที่มีการเปิดสอบ เจ้าตัวก็ได้มาสมัครสอบและเข้าทำงานเป็นไปตามขั้นตอน จึงได้รับบรรจุให้เข้ามาเป็นพนักงานราชการ โดยเพิ่งเข้ามาทำงานเมื่อเดือน ต.ค.65 ส่วนสาเหตุที่นายโบ๊ท เข้าไปอยู่ในวงโต๊ะจีนของกำนันนก เนื่องมาจากภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดนครปฐม แต่ยืนยันว่าสิ่งที่นายโบ๊ทกระทำไม่เกี่ยวกับเรื่องของการปฎิบัติงาน แต่เป็นความประพฤติส่วนตัว

นายเกียรติกร เผยอีกว่า ภายหลังจากทราบเรื่อง ตนได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำติดต่อประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าวเพื่อขอข้อมูลเอกสารพยานหลักฐาน ว่าได้มีการควบคุมตัวนายโบ๊ท เจ้าหน้าที่ในสังกัดจริงหรือไม่ อย่างไร ด้วยพฤติการณ์ความผิดใดบ้างและแจ้งข้อหาใดบ้าง เพื่อให้ทางเรือนจำกลางราชบุรีนำเอกสารของตำรวจไปสู่การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง โดยมีเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำเป็นประธานและกรรมการ ซึ่งจะมีแนวทางหลังจากนี้ คือ ทั้งให้ออกไว้ก่อน หรือ ยกเลิกสัญญาการว่าจ้าง เนื่องจากผิดเงื่อนไขสัญญา และถ้าพบความผิดจริง เรือนจำจะยกเลิกสัญญาการจ้างแน่นอน ขณะนี้ จึงอยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของเรือนจำดำเนินการทำคำสั่ง เพราะต้องรอในส่วนของพยานหลักฐานของทางเจ้าที่ตำรวจเพื่อนำมาประกอบใส่กับคำสั่งดังกล่าว

นายเกียรติกร เผยด้วยว่า เข้าใจว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นคงเป็นเวลาหลังจากเลิกงานแล้ว นายโบ๊ท จึงเดินทางไปร่วมงานด้วยเรื่องส่วนตัว อีกทั้งภายหลังเกิดเรื่อง ตนยังไม่สามารถติดต่อนายโบ๊ทได้ คาดว่าตอนนี้น่าจะอยู่ในขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะมีการขยายผลจากการสอบปากคำในเรื่องของเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าว นอกจากนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ก็จริงแต่พบว่าเมื่อวันศุกร์ที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าตัวยังมาทำงานปกติ เพราะยังไม่มีใครทราบเรื่องว่าเจ้าตัวไปเกี่ยวข้องในเหตุการณ์อย่างไรบ้าง จนมีการรายงานข่าวออกมาว่าเจ้าตัวให้การรับสารภาพ

เมื่อถามว่าอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้มีการกำชับเรื่องใดเป็นพิเศษมาหรือไม่ เเม้จะเป็นกรณีการประพฤติส่วนตัวของนายโบ๊ท แต่ก็ทำให้กรมราชทัณฑ์และเรือนจำกลางราชบุรีได้รับผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร นายเกียรติกร ระบุว่า อธิบดีได้ให้ทางเรือนจำเร่งรัดดำเนินการโดยเร็ว และตนได้เรียนแจ้งให้อธิบดีทราบแล้วว่าได้มีการสั่งการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรอหลักฐานบางส่วนของตำรวจก่อน อย่างไรก็ตาม กรณีที่พนักงานราชการของเรือนจำเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุร้ายแรง อธิบดีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมนอกลู่นอกทาง ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความประพฤติส่วนตัว แม้นายโบ๊ทไม่ได้ไปทำด้วยหน้าที่การงาน แต่การมีตำแหน่งเป็นพนักงานราชการของเรือนจำ จะมีข้อกำหนดเรื่องวินัยอยู่แล้ว โดยจะต้องรักษาชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่การงาน ดังนั้นหากเรือนจำได้ข้อมูลครบถ้วนจากตำรวจแล้วก็จะสามารถดำเนินการตามขั้นตอนได้ทันที.

นายเกียรติกร เผยด้วยว่า เข้าใจว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นคงเป็นเวลาหลังจากเลิกงานแล้ว นายโบ๊ท จึงเดินทางไปร่วมงานด้วยเรื่องส่วนตัว อีกทั้งภายหลังเกิดเรื่อง ตนยังไม่สามารถติดต่อนายโบ๊ทได้ คาดว่าตอนนี้น่าจะอยู่ในขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะมีการขยายผลจากการสอบปากคำในเรื่องของเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าว นอกจากนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ก็จริงแต่พบว่าเมื่อวันศุกร์ที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าตัวยังมาทำงานปกติ เพราะยังไม่มีใครทราบเรื่องว่าเจ้าตัวไปเกี่ยวข้องในเหตุการณ์อย่างไรบ้าง จนมีการรายงานข่าวออกมาว่าเจ้าตัวให้การรับสารภาพ

เมื่อถามว่าอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้มีการกำชับเรื่องใดเป็นพิเศษมาหรือไม่ เเม้จะเป็นกรณีการประพฤติส่วนตัวของนายโบ๊ท แต่ก็ทำให้กรมราชทัณฑ์และเรือนจำกลางราชบุรีได้รับผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร นายเกียรติกร ระบุว่า อธิบดีได้ให้ทางเรือนจำเร่งรัดดำเนินการโดยเร็ว และตนได้เรียนแจ้งให้อธิบดีทราบแล้วว่าได้มีการสั่งการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรอหลักฐานบางส่วนของตำรวจก่อน อย่างไรก็ตาม กรณีที่พนักงานราชการของเรือนจำเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุร้ายแรง อธิบดีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมนอกลู่นอกทาง ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความประพฤติส่วนตัว แม้นายโบ๊ทไม่ได้ไปทำด้วยหน้าที่การงาน แต่การมีตำแหน่งเป็นพนักงานราชการของเรือนจำ จะมีข้อกำหนดเรื่องวินัยอยู่แล้ว โดยจะต้องรักษาชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่การงาน ดังนั้นหากเรือนจำได้ข้อมูลครบถ้วนจากตำรวจแล้วก็จะสามารถดำเนินการตามขั้นตอนได้ทันที