Social :



รวบแก๊งยานรก ประเทศเพื่อนบ้าน รู้ไต๋ไม่ทำบาปวันพระ ดักจับก่อน 1 วัน ของกลางอื้อ

12 ก.ย. 66 10:09
รวบแก๊งยานรก ประเทศเพื่อนบ้าน รู้ไต๋ไม่ทำบาปวันพระ ดักจับก่อน 1 วัน ของกลางอื้อ

รวบแก๊งยานรก ประเทศเพื่อนบ้าน รู้ไต๋ไม่ทำบาปวันพระ ดักจับก่อน 1 วัน ของกลางอื้อ

เมื่อวันที่ 11 ก.ย. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.4 บช.สอท.1 จับกุมนายกำชัย หรือ ปุ๊ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน , ร่วมกันโดยทุจริตนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และ ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์” โดยจับกุมได้ที่บริเวณบ้านพัก ในซอยเทศบาลบางปู 91 อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือน เม.ย. 66 ที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหายถูกขบวนการคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากร โทรศัพท์มาแจ้งให้ผู้เสียหายส่งงบการเงินประจำปี ที่ยังค้างชำระและให้อัพเดทข้อมูลส่วนตัวให้เป็นปัจจุบัน พร้อมทั้งใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ชื่อ กระทรวงพาณิชย์ ส่งลิงก์มาให้ผู้เสียหายโดยแจ้งว่าเป็นลิงก์เว็บไซต์ของกรมสรรพากร เพื่อให้ผู้เสียหายกดเข้าไปตรวจสอบว่ามีการค้างภาษีหรือไม่ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงกดเข้าไปจากนั้นโทรศัพท์มือถือได้ค้างและดับไป


ต่อมาปรากฏว่ามีการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหาย ผ่านโมบายแบ็งค์กิ้ง จำนวน 2 บัญชี รวมเป็นเงิน 1,968,049 บาท ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอกจึงเดินทางเข้าร้องทุกข์กับ บช.สอท.เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้าย ต่อมา พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์
Lif
จึงได้สั่งการให้เร่งรัดทำการสืบสวนสอบสวนและติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดี ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.1 ได้สืบสวนจนทราบตัวผู้ก่อร่วมกระทำผิด จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัว นายกำชัย หรือ ปุ๊ ได้ที่บริเวณบ้านพัก จ.สมุทรปราการ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและเคยถูกจับกุมตัวมาก่อน

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ฯ​ กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การรับว่า ก่อนหน้านี้มีหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งรู้จักกันได้มาขอบัตรประจำตัวประชาชนไป โดยไม่ได้แจ้งว่าจะนำไปทำอะไร พร้อมทั้งให้ค่าตอบแทนมาเป็นจำนวนเงิน 200 บาท จึงเชื่อว่าจะมีการนำบัตรประชาชนของตนไปเปิดบัญชีธนาคาร หรือลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ (บัญชีม้า ซิมม้า) เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา และกำลังขยายผลไปยังผู้ที่อยู่เบื้องหลังและขบวนการทั้งหมด

“ทั้งนี้ฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่าอย่าได้หลงเชื่อหรือตกเป็นเหยื่อ โดยไม่ควรรับแอดเพื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่รู้จัก หากจะรับขอให้ตรวจสอบข้อมูลในบัญชีให้ดี รวมทั้งไม่ควรกดลิงค์จากคนแปลกหน้าหรือผู้ที่ไม่รู้จัก เมื่อมีการติดต่อจากผู้ที่อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ ควรตรวจสอบยืนยันว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ และหากมีการชักชวนลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ และควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของการลงทุนอีกด้วย หากมีข้อสงสัยสามารถปรึกษาสอบถาม สายด่วน ตำรวจไซเบอร์ 1441 ได้ทันที” พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ กล่าว.

ขอบคุณที่มา  ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ