Social :



ทีเด็ด ‘ครม.’ สมนาคุณ เคาะลดค่าไฟ 11 สต. เหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย เริ่มทันทีรอบบิล ก.ย.

18 ก.ย. 66 19:09
ทีเด็ด ‘ครม.’ สมนาคุณ เคาะลดค่าไฟ 11 สต. เหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย เริ่มทันทีรอบบิล ก.ย.

ทีเด็ด ‘ครม.’ สมนาคุณ เคาะลดค่าไฟ 11 สต. เหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย เริ่มทันทีรอบบิล ก.ย.

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม. ว่า ครม. รับทราบมาตรการลดค่าไฟฟ้าเพิ่มเติมจากเดิมอีกหน่วยละ 11 สตางค์ โดยค่าไฟงวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค. 66) จะเหลือเพียงหน่วยละ 3.99 บาท จากมติ ครม. เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 66 ที่รับทราบว่าลดลงเหลือหน่วยละ 4.10 บาท โดยยืนยันว่าเป็นไปตามกฎระเบียบ ไม่ฝ่าฝืนวินัยการเงินการคลัง โดยก่อนหน้านี้ภาคเอกชนเรียกร้องให้ลดค่าไฟฟ้าเหลือหน่วยละ 4.20 บาท แต่รัฐบาลสามารถลดได้มากกว่าที่เอกชนได้ร้องขอไว้ ซึ่งแนวทางนี้เป็นแนวทางที่นายกรัฐมนตรีบอกว่า ต้องการให้ค่าไฟต่ำกว่า 4 บาทต่อหน่วย

ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน กล่าวก่อนการประชุม ครม. ถึงมาตรการลดราคาน้ำมันเบนซินก่อน ว่าจะพยายามลดราคาน้ำมันเบนซินให้ได้เป็นของขวัญปีใหม่ 67 โดยลดเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง ซึ่งจะเร่งหารือในรายละเอียดกับกรมธุรกิจพลังงาน และในที่ 19 ก.ย. นี้ เตรียมหารือร่วมกับกรมศุลกากร เพราะน้ำมันเป็นสินค้าพิเศษ ประเภทอุปโภคบริโภคธรรมดา เป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของคน และเกี่ยวกับต้นทุนสินค้าต่าง ๆ รวมถึงเป็นเรื่องของความมั่นคง ต้องกำกับดูแลที่รอบคอบรัดกุมและต้องได้ข้อมูลที่ถูกต้องมากกว่านี้ ยืนยันการลดราคาน้ำมันเบนซินต้องเกิดขึ้นภายในปีนี้ โดยจะพยายามทำให้โครงสร้างมีความถูกต้องมากขึ้น

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากระทรวงการคลังเตรียมเสนอให้ปรับเงื่อนไขโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จากเดิมกำหนดรัศมีการใช้เงินภายใน 4 กม. เป็นภายในอำเภอ ว่า ยังไม่มีข้อสรุปโดยจะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ โดยจะเสนอรายละเอียดทั้งหมดให้ ครม. พิจารณาในอีก 10 วันข้างหน้า ทั้งวงเงินและแหล่งที่มาของการใช้งบประมาณ รวมทั้งจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาแนวทางการพักหนี้เกษตรกร ด้วย

ในวันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง กล่าวในงาน
Lif
Thairath Forum 2023 หัวข้อ “Future Perfect เปิดมุมคิด พลิกอนาคต” โดยส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับนโยบายด้านเศรษฐกิจ ว่า นโยบายใดทำได้จะทำก่อน ไม่อยากให้รอครบทุกมิติ เช่น เรื่องค่าไฟ ค่าน้ำมันดีเซล ซึ่งยังไม่ครบทั้งหมด โดยน้ำมันเบนซินอาจต้องพิจารณามากกว่า ขณะที่ค่าไฟสามารถลดลงไปได้แล้ว รวมถึงเรื่องด่วนที่ต้องเร่งทำ เช่น เรื่องวีซ่า-ฟรี หรือยกเว้นการยื่นวีซ่า ให้นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน รวมถึงเรื่องค่าแรงขั้นต่ำคาดว่าจะมีผลก่อนปีใหม่ ส่วนจะปรับขึ้นได้ถึง 400 บาทต่อวันหรือไม่ ต้องไปหารือก่อน

ขณะที่เรื่องค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับทราบข้อมูลทั้งหมด แต่ยอมรับว่าภายใน 3 เดือนนั้นเป็นไปได้ยาก ส่วนเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยังยืนยันว่าจะใช้ผ่านระบบบล็อกเชน และจะดำเนินการได้ไม่เกินไตรมาสแรกของปีหน้าแน่นอน พร้อมมีแนวคิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ภาคเอกชนอาจจะเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับนโยบายนี้ เช่น บรรดาห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อาจจัดโปรโมชั่นเพิ่ม เช่น จาก 100 บาท เพิ่มเป็น 110 บาท เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการลดความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะล่าสุดกรมสรรพากรได้ออกประกาศเรื่องการลงทุนในต่างประเทศ หากมีการส่งเงินกลับเข้ามาในไทยต้องเสียภาษี มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. นี้ เป็นต้นไป หรือเรื่องของภาษีมรดก ที่เห็นว่าการจัดเก็บภาษีได้เพียง 200 ล้านบาทนั้น เป็นสัญลักษณ์เกินไป ใครที่มีรายได้ก็ต้องเสียภาษี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ขณะเดียวกันยังเตรียมหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อให้ยกเว้นหรือลดภาษีนำเข้าอัญมณี สำหรับนักท่องเที่ยวอินเดียที่เดินทางมาแต่งงานในไทยด้วย..

ขอบคุณที่มา    ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ