Social :



เปิดประวัติ ‘บิ๊กโจ๊ก’ แคนดิเดต ‘ผบ.ตร.’ คนใหม่ ในวันเผชิญมรสุมอีกรอบ

25 ก.ย. 66 14:09
เปิดประวัติ ‘บิ๊กโจ๊ก’ แคนดิเดต ‘ผบ.ตร.’ คนใหม่ ในวันเผชิญมรสุมอีกรอบ

เปิดประวัติ ‘บิ๊กโจ๊ก’ แคนดิเดต ‘ผบ.ตร.’ คนใหม่ ในวันเผชิญมรสุมอีกรอบ

สำหรับประวัติของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เกิดเมื่อ 29 ต.ค. 2513 ที่ จ.สงขลา เข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร (นตท.) รุ่นที่ 31 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่นที่ 47 เป็นประธานรุ่น นรต.47 

ส่วนเส้นทางการทำงานของ “บิ๊กโจ๊ก” เริ่มรับราชการติดยศ “ร.ต.ต.” เป็นรองสารวัตร ตั้งแต่ 1 ก.พ. 2537 เป็นรองสารวัตรได้ 6 ปี 1 เดือน ได้ขึ้นเป็นสารวัตร และเป็นสารวัตรได้ 4 ปี 8 เดือน ขยับเป็นรองผู้กำกับการ เป็นรองผู้กำกับการอยู่ 4 ปี จากนั้นขยับเป็นผู้กำกับการ ติดยศ “พ.ต.อ.” ได้เป็น ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จ.สงขลา โรงพักเกรดเอ โดยขณะนั้น พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9

พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้กำกับการอยู่ได้ 4 ปี 1 เดือน จึงขยับเป็นรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ได้เป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา และยังเป็นผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร จ.สงขลา ส่วนหน้า ดูแลพื้นที่ อ.จะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และเทพา จ.สงขลา 4 อำเภอพื้นที่สีแดงในพื้นที่ต่อเนื่องจังหวัดชายแดนใต้ การอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้รับสิทธินับอายุราชการแบบทวีคูณ แม้อายุยังน้อย แต่อายุงานเพิ่มความอาวุโส ทำให้ก้าวขึ้นเป็น “พล.ต.ต.” ขณะอายุไม่ถึง 45 ปี

23 ก.ค. 2558 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้เป็นผู้บังคับการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าประสานนายกรัฐมนตรี ในยุคของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยทำหน้าที่นายตำรวจประสานงานใกล้ชิด บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
MulticollaC
ที่ดูแลรับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นขยับเป็นผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ในปี 2558

ด่วน! ตำรวจไซเบอร์บุกตรวจค้นบ้าน ‘บิ๊กโจ๊ก’ หลังพบเชื่อมโยงพนันออนไลน์
 
กระทั่งปี 2559 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ขยับขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 และปี 2560 ซึ่งอาวุโสอยู่ในลำดับที่ 76 ได้รับการเสนอชื่อจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ขึ้นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และโยกมานั่งเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และในที่สุดขยับขึ้นมานั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นผู้บัญชาการอายุน้อย ติดยศ “พล.ต.ท.” ด้วยวัยเพียง 48 ปี เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการสีกากี

“บิ๊กโจ๊ก” กลายเป็นนายตำรวจหนุ่มเนื้อหอมและถูกกล่าวถึงมากที่สุด เพราะในวงการรู้ดีว่าเป็นผู้ใกล้ชิด “บิ๊กป้อม” และบทบาทหน้าที่ค่อนข้างโดดเด่น แต่เส้นทางบนถนนสีกากีต้องมาสะดุดลง โดยเมื่อ 6 เม.ย. 2562  ถูกคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม 

กระทั่ง วันที่ 9 เม.ย. 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ขาดจากตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิม ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ก่อนที่จะจะกลับมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ สบ 9 ขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรอง ผบ. ตร. ตามลำดับ

ขอบคุณที่มา   ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ