สั่งตายกลางถนน ดับคาที่ 2 ศพ รับยาบ้าไปแล้วเบี้ยวเงิน เจ็บอีก 1 คน

เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 25 ก.ย.66 ร.ต.ท.วรวุฒิ ราซารี รอง สว.(สอบสวน) สภ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่ถนนสาย 222 ศรีวิไล-พรเจริญ บริเวณบ้านโคกสำราญ ต.ชุมภูพร อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ธำรงชัย ไล้ทองดี ผกก.สภ.สภ.ศรีวิไล, พ.ต.ท.เนื่องฤทธิ์ ตาตะมิ รอง ผกก.(สอบสวน), ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีวิไล, ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.บึงกาฬ, แพทย์เวร รพ.ศรีวิไล และหน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไล

ที่เกิดเหตุพบศพชายวัยรุ่น 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายณรงค์ ฉะอ้อนศรี สภาพนอนคว่ำหน้าอยู่บนถนน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่ไหล่ขวา ขาด้านซ้ายยังพาดอยู่ที่รถจยย.ฮอนด้าสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีมีดดาบในฟักเหน็บไว้ด้านหลัง ใกล้กันพบศพ นายสายลม สาคร สภาพนอนหงายถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่กลางหลัง และศีรษะ และทราบว่ายังมีผู้บาดเจ็บอีกรายถูกเพื่อนๆ ที่มาด้วยกันนำส่ง รพ.ศรีวิไล ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อต่อมาคือ นายกิตติศักดิ์ วงค์อ่อน ถูกยิงเข้าที่ขาด้านขวา

จากการสอบสวน นายกิตติศักดิ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปนั่งกินน้ำกระท่อมบ้านเพื่อนประมาณ 5-6 คนที่บ้านหนองจันทร์ ต.ศรีวิไล ขณะกำลังขี่รถจยย.มาด้วยกัน 4 คัน ถึงที่เกิดเหตุก็เจอคู่อริจอดรถ จยย.ดักอยู่ด้านหน้า 5 คัน มีคนประมาณ 10 คน จึงบอกเพื่อนหันหลังกลับไปทางเดิม โดยขี่รถย้อนศร เมื่อคู่อริเห็นดังนั้นจึงขี่รถไล่หลังตามมาติดๆ ตนนั่งมาคนเดียวถูกยิงเข้าที่ขาจนรถล้ม ส่วนผู้ตายซึ่งขับขี่และซ้อนท้ายกัน ขี่หนีไม่ทันจึงถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ, พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ได้ลงพื้นที่ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งรัดให้ชุดสืบสวนทั้งภูธรจังหวัดและชุดสืบสวน สภ.ศรีวิไล ออกติดตามจับกุมกลุ่มคนร้าย เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน

ต่อมาสามารถตามจับกุมคนร้ายที่ลงมายิงได้ ทราบชื่อคือ นายปฏิมากรณ์ วรรณสุด อายุ 25 ปี โดยยอมรับสารภาพว่า ผู้ตายรับยาบ้าไปแล้วเบี้ยวเงินไม่ยอมจ่าย เมื่อสบโอกาสได้ขี่รถจยย.2 คัน พร้อมกับพวก 4 คน ใช้อาวุธปืนลูกซองไล่ยิงผู้ตายและผู้บาดเจ็บจริง นัดแรกกระสุนปืนถูก นายกิตติศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บ ยิงนัดที่สองกระสุนถูกผู้ตายทั้ง 2 คนจนรถล้มคว่ำ ก่อนหลบหนีไป กระทั่งถูกจับกุมตัวได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป