Social :



ไม่ไว้ใจใครเลือกตั้งครั้งหน้า “ศิธา” ปัดออกความเห็น “รองอ๋อง” ชี้เป็นเรื่องของก้าวไกล

28 ก.ย. 66 12:09
ไม่ไว้ใจใครเลือกตั้งครั้งหน้า “ศิธา” ปัดออกความเห็น “รองอ๋อง” ชี้เป็นเรื่องของก้าวไกล

ไม่ไว้ใจใครเลือกตั้งครั้งหน้า “ศิธา” ปัดออกความเห็น “รองอ๋อง” ชี้เป็นเรื่องของก้าวไกล

“ศิธา”ปัดออกความคิดเห็นเรื่อง”รองอ๋อง” ชี้เป็นกระบวนการภายในของพรรคก้าวไกล ให้กำลังใจ”เศรษฐา” แต่ชื่อประชาชนรู้แล้ว จะไว้ใจใคร ไม่ไว้ใจใครเลือกตั้งครั้งหน้า
 

 

 

น.ต.ศิธา ทิวารี แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงประเด็นที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่1 จะมีการคุยกับทางพรรคก้าวไกล ถึงเรื่องการออกขับออกจากพรรคเพื่อไปอยู่สังกัดพรรคอื่น ทางพรรคไทยสร้างไทยจะเปิดประตูทุกบานเหมือนพรรคเป็นธรรมหรือไม่ ว่า ประเด็นแรก ตนมองเป็นเรื่องกระบวนการภายในของพรรคก้าวไกล ตนเข้าใจว่าเป็นการประชุมของพรรคและสิทธิ์ของนายปดิพัทธ์ว่าจะออกหรือไม่ออก แต่ทางพรรคก็มีมติได้ ซึ่งสามารถมีมติบอกให้นายปดิพัทธ์ ลาออกได้แต่ถ้านายปดิพัทธ์ไม่ลาออกก็ไม่สามารถไปทำอะไรได้ มีทางเดียวก็คือทางพรรคก้าวไกลต้องขับนายปดิพัทธ์ ถ้าเกิดต้องการตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน

 




 

 

ประเด็นที่ 2 เมื่อออกแล้ว ถ้าเกิดมีการขับแล้วนายปดิพัทธ์ยังไม่พ้นสภาพสส.สามารถจะเป็นสส.ต่อได้อีก 30 วัน แต่ถ้าเกิดภายใน 30 วัน มีพรรคการเมืองมาชวนให้เข้าเป็นสส.ในสังกัดก็จะสามารถดำรงตำแหน่งสส.ต่อไปได้และเป็นรองประธานสภาต่อไปได้

 

 



 

ประเด็นที่ 3 ในส่วนของไทยสร้างไทย เรารู้สึกยังไง เราจะไม่คอมเม้นอะไรทั้งสิ้นถือว่าเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัวว่า อยากจะไปอยู่พรรคไหนก็เป็นสิทธิ์ของเขา และการที่จะไปบอกว่าให้เข้ามาถ้าเกิดความไม่เข้าใจกันแล้วเราไปพูดล้ำเส้น อาจจะเกิดความแคลงใจกัน ตนเชื่อว่าในฝ่ายค้านมีการร่วมมือในการตรวจสอบและเป็นการตรวจสอบรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์จริงๆ ไม่ได้ค้านทุกเรื่อง และทำในทิศทางเดียวกัน ถือว่าเป็นคนผสมกลมกลืนที่ลงตัวกันอยู่แล้ว

 

 

“จะมีสส. 6 คนหรือกี่คนไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญเลย เพราะฉะนั้นถามว่าถ้าจะมาก็ยินดีต้อนรับ แต่ก็ขอไม่ออกความคิดเห็นว่าอยากให้เข้ามาในพรรค”





 

 

Lif
กรณีเรื่ององค์กรตำรวจมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดในฐานะที่ตนเคยอยู่วงการด้านฝ่ายความมั่นคงของประเทศมามองอย่างไร น.ต.ศิธา ระบุว่า ทุกๆเรื่องอะไรที่ไม่ถูกต้อง ก็ต้องค่อยๆปรับ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็มีการติดตามและรับฟังจากข้อมูลต่างๆ ตนมองว่าคงเป็นความรู้สึกของคนสองกลุ่ม ถ้ามองในแง่บวก ควรที่จะนำเอาประเด็นต่างๆขึ้นมาและแก้ไข

 

 



 

มองว่าทั้งสองฝ่ายควรจะพูดความจริงและทำให้มันถูกต้องทั้งหมด อะไรที่ไม่ถูกต้องถ้าทำให้ถูกมันก็จะปลอดภัย ทุกประเทศทั่วโลก ตระหนักในเรื่องพวกนี้และมีการหยิบขึ้นมาแม้กระทั่งประเทศที่เขาเคร่งครัดกว่าเรา เอามาทำให้มันถูกต้องหมดแล้ว แต่ประเทศเรากลายเป็นไปบังแล้วกดไว้ใต้ดินและบางครั้งข้อมูลที่ได้คือ คนที่ทำสิ่งทุจริตผิดกฎหมายต่างๆแม้กระทั่งบ่อนการพนัน ส่วนใหญ่ก็เป็นคนไทย 90%

 

 

 

ตอนนี้รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องมาตามเช็ดตามล้างในสิ่งที่รัฐบาลเก่าทำไว้ทั้งเรื่อง สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ(สพช.) เรื่องตำรวจ และล่าสุดที่มีการประกาศไม่รับเงินเดือน จะมีการให้กำลังใจถึงนายเศรษฐาอย่างไร น.ต.ศิธา กล่าวว่า เรื่องการให้กำลังใจเราให้อยู่แล้วสำหรับทุกคนที่มาเป็นรัฐบาลแม้กระทั่งรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

 

 

ต้องยอมรับว่าตั้งแต่เข้ามาประเทศเสียหายถอยหลังไปเยอะมาก แต่อย่างน้อยเราต้องได้อะไรกลับคืนมา ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง ความรู้สึกจะแตกต่างกัน ก่อนเลือกตั้งเราก็อยากให้ทุกอย่างตรงไปตรงมา แต่มันก็ไม่มีความตรงไปตรงมา ซึ่งประชาชนรู้อยู่แล้ว ว่าจะไว้ใจใครหรือไม่ไว้ใจใครในการเลือกตั้งครั้งหน้า

 

 

 

“เมื่อได้อำนาจรัฐไปแล้วไม่ถือว่าคุณเป็นใครแต่คุณคือคนที่เข้ามาบริหารเงินทุกบาททุกสตางค์ของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ เพราะฉะนั้นคุณควรที่จะทำให้ถูกต้อง และก็ไม่ได้ไปกล่าวโทษอะไรเลยว่ารัฐบาลนี้ทำนู่นก็ผิดทำนี้ก็ผิด เป็นการที่ตนชี้ว่า ของเดิมเป็นอย่างนี้แก้ไขซะ มองในแง่บวก จะทำอะไร คนก็มองว่าดีกว่า 9 ปี ที่ผ่านมาอยู่แล้ว เพราะระบบมันถูกต้องมากยิ่งขึ้น ถึงจะไม่ถูกต้องถูกใจประชาชนส่วนใหญ่ก็ตาม ตรงนี้ไว้เดี๋ยวว่ากันเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะฉะนั้นตอนนี้ต้องทำให้ดีที่สุด”น.ต.ศิธา กล่าว

 

 

 

 ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy