Social :



ทำชนะเลือกตั้ง “พิธา-เดชรัต” เปิด ที่มา 300 นโยบายเปลี่ยนประเทศของก้าวไกล

30 ก.ย. 66 07:09
ทำชนะเลือกตั้ง “พิธา-เดชรัต” เปิด ที่มา 300 นโยบายเปลี่ยนประเทศของก้าวไกล

ทำชนะเลือกตั้ง “พิธา-เดชรัต” เปิด ที่มา 300 นโยบายเปลี่ยนประเทศของก้าวไกล

พิธา-เดชรัต บรรยายราชภัฏเชียงใหม่ เปิดเบื้องหลังละเอียดยิบ ที่มา 300 นโยบายเปลี่ยนประเทศของก้าวไกล ชูสโลแกน “การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต” ทำชนะเลือกตั้ง
 
 

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center ร่วมบรรยายในประเด็นทางวิชาการเกี่ยวกับนโยบายของพรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่ง ว่ามีกระบวนการกำหนดนโยบายอย่างไรบ้าง โดยมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เข้าร่วมรับฟังกว่า 250 คน

 

 



โดยนายพิธา และนายเดชรัต สุขกำเนิด เริ่มเกริ่นจากการเปิดเว็บไซต์ election66.moveforwardparty.org/policy เพื่อชี้ให้เห็นว่า พรรคก้าวไกลมีนโยบายที่ใช้หาเสียงเลือกตั้งกว่า 300 นโยบาย ครอบคลุมในทุกภาคส่วนของสังคม เช่น ชุดนโยบายประชาธิปไตย สวัสดิการครบวงจร การกระจายอำนาจ ราชการเพื่อราษฎร เกษตรก้าวหน้า ปฏิวัติการศึกษา สิ่งแวดล้อมยั่งยืน และเศรษฐกิจเพื่อทุกคน เป็นต้น เพื่อชี้ให้เห็นว่ากว่าจะมาเป็นนโยบายที่ครอบคลุม ละเอียด และค้นหาได้ง่าย พร้อมทั้งมีการสื่อสารนโยบายที่มีประสิทธิภาพ ทำให้พรรคก้าวไกลได้รับการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 นั้นมีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง

 



ทั้งนี้ การออกแบบนโยบายแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1.การค้นหาประเด็นนโยบาย/ปัญหาในพื้นที่ 2.การออกแบบรายละเอียดนโยบาย 3.การทดสอบความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง และ 4.การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง


 

 

โดยการค้นหาประเด็นนโยบายหรือปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ ก็สามารถค้นคว้าได้จากหลายช่องทาง เช่น การค้นหาจากประชาชนในพื้นที่ (Primary) การค้นหาจากข่าวสาร ข้อเขียน งานวิจัยที่เคยมีอยู่แล้ว(Secondary) การค้นหาจากการนำเสนอของประชาชน(Crowdsourcing) และการค้นหาจากประสบการณ์และนโยบายต่างประเทศ

 

 

อย่างไรก็ตาม การกลั่นกรองนโยบายต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้รอบด้านควบคู่กันด้วย ได้แก่ 1.ความเป็นไปได้เชิงเทคนิค 2.ความเป็นไปได้ในทางการบริหาร/ทางกฎหมาย 3.ความเป็นไปได้ทางการเงิน 4.ความเป็นไปได้ทางการเมือง





 

MulticollaC
ตัวอย่างเช่น ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ไม่ได้มีปัญหาในข้อ 1-3 เลย แต่ยังมีข้อติดขัดในข้อ 4 ความเป็นไปได้ทางการเมือง เพราะยังมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง มีวิถีชีวิต ความเชื่อทางศาสนาที่แตกต่างกันและไม่เข้าใจนโยบายนี้ หน้าที่เราคือพยายามอธิบายว่านี่เป็นเรื่องของการดูแลกันด้วยพันธะทางกฎหมายให้คุ้มครองทุกคนเสมอภาคกัน

 

 



แต่เรื่องรสนิยมและความเชื่อก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลหรือสมมติว่าหากเราอยากแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 แล้วคิดอย่างสุดโต่ง ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง จะเอายานอวกาศมาดูดฝุ่นไปให้หมดจากโลก ก็เป็นไปไม่ได้ทั้ง 4 ข้อ เราก็เรียกนโยบายแบบนี้ว่ายูนิคอร์นในทุ่งลาเวนเดอร์

 

 

ด้านนายเดชรัต เปิดเผยตัวเลขสถิติเบื้องหลังการทำงานนโยบายพรรคก้าวไกลว่าตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง เรามีบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับงานนโยบายถึง 200 คน มีทั้งคณะทำงานประจำ และคณะทำงาน อาสาสมัคร ที่อยู่ในแต่ละพื้นที่ ทำหน้าที่สะท้อน ชี้เป้าปัญหาให้เราออกแบบเป็นนโยบาย มีการทำงานมากกว่า 4,200 ชั่วโมง มีการลงพื้นที่นับร้อยครั้ง รวมระยะทางอย่างน้อย 45,358 กิโลเมตร ทั่วประเทศ จนกลั่นกรองมาเป็น 300 นโยบาย “การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต” พรรคก้าวไกลได้สำเร็จ



 

แต่ความสำเร็จนั้นเกิดขึ้นจากการสื่อสารนโยบายที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการอบกรมผู้ลงสมัครเลือกตั้งเป็น สส. ของพรรคก้าวไกล และแกนนำพรรคทุกคน ให้เข้าใจนโยบายทุกนโยบายอย่างถ่องแท้ มีการทำสมุดและเว็บไซต์ลงรายละเอียด 300 นโยบายโดยละเอียด เวลาไปขึ้นเวทีดีเบตนโยบายทุกครั้งก็ไม่มีใครตายเวที สามารถตอบได้เป็นทิศทางเดียวเหมือนกันหมด

 

 

ที่สำคัญ เรามีการปิดจุดอ่อนที่คิดว่าจะถูกโจมตี เช่นความเป็นไปได้ทางการเงินของทุกนโยบายที่เรานำเสนอ โดยเฉพาะ “นโยบายสวัสดิการก้าวหน้าตั้งแต่เกิดจนตาย” เราจึงมีการเปิดเผยเบื้องหลังการคำนวณงบประมาณและแหล่งงบประมาณที่เราจะนำมาใช้ในโครงการสวัสดิการต่างๆ หากก้าวไกลเป็นรัฐบาลรวมกว่า “650,000 ล้านบาท มีเงินจ่าย ทำได้จริง” ด้วยสารสื่อสารอินโฟกราฟฟิกให้ประชาชนเข้าใจง่าย และหากถูกสอบถามที่ไหนพวกเราทุกคนก็สามารถอธิบายให้กระจ่างได้ชัดเจน

 

 

โดยตลอดการบรรยาย ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักศึกษา โดยมีการถามตอบประเด็นรายละเอียดนโยบายต่างๆ ที่นักศึกษาสนใจ โดยชุดนโยบายที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่ ชุดนโยบายกระจายอำนาจ ชุดนโยบายการศึกษา ชุดนโยบายสวัสดิการถ้วนหน้าและนโยบายคนทำงาน

 

 

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy