Social :



รู้พิกัดแล้ว! ล่า “เสี่ยแป้ง” นักโทษคดีดังป่วยทิพย์หนีจากรพ. ชี้ผู้คุมแจ้งช้า 3 ชม.

22 ต.ค. 66 19:10
รู้พิกัดแล้ว! ล่า “เสี่ยแป้ง” นักโทษคดีดังป่วยทิพย์หนีจากรพ. ชี้ผู้คุมแจ้งช้า 3 ชม.

รู้พิกัดแล้ว! ล่า “เสี่ยแป้ง” นักโทษคดีดังป่วยทิพย์หนีจากรพ. ชี้ผู้คุมแจ้งช้า 3 ชม.

จากกรณีที่นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือฉายา “เสี่ยแป้ง นาโหนด” นักโทษคดีดังหลายคดี โดยเฉพาะการปล้นตำรวจสืบสวนภาค 8 ยิงต่อสู้และชิงตัวผู้ต้องหา คดีนี้ศาลจังหวัดพัทลุงได้ตัดสินเป็นคดีแดงที่ อ.1861/2565 จำคุก 20 ปี 6 เดือน โดยเริ่มจองจำตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.65 อยู่ที่เรือนจำความมั่นคงสูง เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และล่าสุดได้ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวมาทำการรักษาทันตกรรมตามการนัดของแพทย์ ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 20 ต.ค.66 แต่หลังจากที่ส่งตัวมาถึงนั้นพบว่าแพทย์ได้ทำการเลื่อนนัด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงจะคุมตัวกลับเรือนจำฯ

แต่ปรากฏว่านายเชาวลิตเกิดอาการวูบหมดสติ แพทย์จึงให้เข้ารักษาตัวอยู่ที่ตึก 298/2 อายุรกรรม ชั้น 6 โดยที่ขาทั้งสองข้างมีตรวนเหล็กพันธนาการ และเมื่อรักษาตัวบนหอผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ยังมีโซ่ล่ามพันธนาการกับเตียงอีกชั้น เดิมทีแพทย์จะให้นายเชาวลิต ออกจากโรงพยาบาลในวันนี้ เวลา 08.30 น. แต่ปรากฏว่าเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 22 ต.ค. นายเชาวลิตได้หลบหนีจากเครื่องพันธนาการและหนีออกจากห้องผู้ป่วย กระทั่งเวลา 03.00 น. พล.ต.ต.สมหมาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชถึงกรณีดังกล่าวนั้น


เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. “ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์” ได้รับรายงานเบื้องต้นจาก นายณรงค์ หนูคง ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง นักโทษชายได้มีการหนีออกจากห้องผู้ป่วยตามวันเวลาที่ได้รับรายงาน ขณะนี้ทราบพิกัดของผู้ต้องโทษแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว ส่วนข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งหมด ตนได้รายงานไปยังเลขานุการกรมราชทัณฑ์รับทราบเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงประเด็นที่มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เฝ้านักโทษถึง 2 คน คือ นายวรินทร์ (สงวนนามสกุล) และนายเอกลักษณ์ (สงวนนามสกุล) แต่นักโทษกลับสามารถหลบหนีไปได้นั้น เกิดความผิดพลาดที่กระบวนการใดบ้างหรือไม่ ผบ.เรือนจำฯ ปฏิเสธการให้ข้อมูลผู้สื่อข่าว พร้อมกล่าวยืนยันว่า ขอให้ทางส่วนกลางของกรมราชทัณฑ์เป็นผู้ชี้แจงเหตุการณ์

ด้าน ดร.วริศรา
MulticollaC
ศิริสุทธิเดชา เลขานุการกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ตนเพิ่งได้รับทราบรายงานข้อมูลจาก ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และขณะนี้ทางกรมราชทัณฑ์อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมอย่างไร ทางกรมจะเรียนแจ้งข้อมูลและผลการตรวจสอบให้ผู้สื่อข่าวรับทราบต่อไป


นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล พบว่านายเชาวลิต ได้ไขกุญแจเดินออกมาจากหอผู้ป่วย ลงลิฟต์จากชั้น 6 ลงไปชั้นล่าง โดยสวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว โดยหลังจากออกจากลิฟต์แล้ว ได้หลบหนีออกจากตึกอายุรกรรมทันที และพบอีกว่าหลังจากทราบเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ยังไม่ได้แจ้งตำรวจทันที แต่ล่วงเลยถึง 3 ชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุจึงเข้าแจ้ง โดยมี พ.ต.ท.มนตรี วรรณคง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ส่วนประวัติทางคดีของนายเชาวลิต นอกจากคดีที่มีการตัดสินของศาลจังหวัดพัทลุงที่ถูกจำคุก 20 ปี 6 เดือน คดีนี้นายเชาวลิต ร่วมกับพวกได้เข้าปล้นผู้ต้องหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ขณะจับกุมคดียาเสพติด และยังมีคดีเกี่ยวกับความผิดต่อชีวิตและร่างกาย ความผิดต่อเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม เป็นการยิงเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ ตามคดีอาญาดำที่ อ.175/2565 อยู่ระหว่างพิจารณาคดี

ทั้งนี้ นายเชาวลิต ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอีกหลายคดี เช่น คดีสมคบค้ายาเสพติด คดีฟอกเงิน คดีร่วมกันฆ่า เช่น คดีการลอบฆ่านายอนันต์ คลังจันทร์ อดีตรองนายก อบจ.นครศรีธรรมราช และยังพบข้อมูลอีกว่าเจ้าหน้าที่ ปปง. ได้เข้าอายัดทรัพย์สินของนายเชาวลิต ที่ จ.สงขลา ซึ่งเจ้าตัวได้นำเอาไปฝากไว้กับพี่สาวมูลค่าสูงถึง 150 ล้านบาท หลังจากมีการเตรียมเงินไว้เป็นทุนที่นายเชาวลิตจะลงสมัคร ส.อบจ.พัทลุง (สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง) โดยระหว่างเคลื่อนไหวหาเสียงนายเชาวลิตได้ใช้รถเบนซ์กันกระสุนเป็นพาหนะ แต่ต้องคดีร้ายแรงก่อนหลายคดี จึงต้องมาวิ่งเต้นคดีแทน.

ขอบคุณที่มา      ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ