Social :



แค้นจีบไม่ติด! หนุ่มใช้ปืนบังคับย่ำยีเด็ก 13 เรียกรุ่นน้องมาร่วมด้วย แถมขู่จะฆ่าให้ตาย

22 ต.ค. 66 20:10
แค้นจีบไม่ติด! หนุ่มใช้ปืนบังคับย่ำยีเด็ก 13 เรียกรุ่นน้องมาร่วมด้วย แถมขู่จะฆ่าให้ตาย

แค้นจีบไม่ติด! หนุ่มใช้ปืนบังคับย่ำยีเด็ก 13 เรียกรุ่นน้องมาร่วมด้วย แถมขู่จะฆ่าให้ตาย

เมื่อวันที่ 22 ต.ค.66 น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ชาว อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พา ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ลูกสาว เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน หลังลูกสาวถูกเยาวชน อายุ 16 ปี กระทำชำเรา และครั้งล่าสุดเยาวชนรายดังกล่าวโทรศัพท์เรียกรุ่นน้องเป็นเด็กชายอายุ 14 ปี มาร่วมก่อเหตุด้วย


โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่บ้านเยาวชนชายอายุ 16 ปี จำนวน 3 ครั้ง และที่ห้องน้ำในพื้นที่ศาลเจ้าพ่อหนองกุง 2 ครั้ง ซึ่งแม่พาลูกสาวเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.น้ำพองแล้ว แต่รู้สึกไม่สบายใจ เพราะมองว่าตำรวจทำคดีล่าช้า หวั่นเกรงว่าลูกสาวจะถูกพาตัวไปกระทำชำเราอีก เนื่องจากเยาวชายดังกล่าว ใช้ทั้งอาวุธปืนและอาวุธมืด ขู่บังคับเอาลูกสาวไปด้วย


โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่บ้านเยาวชนชายอายุ 16 ปี จำนวน 3 ครั้ง และที่ห้องน้ำในพื้นที่ศาลเจ้าพ่อหนองกุง 2 ครั้ง ซึ่งแม่พาลูกสาวเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.น้ำพองแล้ว แต่รู้สึกไม่สบายใจ เพราะมองว่าตำรวจทำคดีล่าช้า หวั่นเกรงว่าลูกสาวจะถูกพาตัวไปกระทำชำเราอีก เนื่องจากเยาวชายดังกล่าว ใช้ทั้งอาวุธปืนและอาวุธมืด ขู่บังคับเอาลูกสาวไปด้วย


น.ส.เอ กล่าวว่า ตนมีอาชีพรับจ้าง ทำงานในโรงงานรับซื้อของเก่า ในทุกวันจะออกไปทำงานกับสามีและลูกคนสุดท้อง โดยที่บ้านให้ด.ญ.บีอยู่กับน้องชายวัย 9 ขวบ กระทั่งเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนเลิกงานกลับบ้าน ลูกชายวัย 9 ขวบมาบอกว่า ด.ญ.บี ถูกเยาวชน อายุ 16 ปี ชาวบ้านหนองกุง ต.หนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พาเข้าห้องน้ำ แล้ว ด.ญ.บี ก็ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด แต่ยังไม่ได้ถามลูกสาว เพราะยังไม่มั่นใจ ทำได้เพียงสังเกตอาการก่อน


“จากนั้นพบว่าลูกสาวมีอาการนั่งซึมนั่งเศร้าและปวดหัว ต่อมาวันที่ 20 ต.ค. ดิฉันและสามีก็ไปทำงานตามปกติ หลังเลิกงานก็กลับบ้าน และพบกับคนรู้จักกัน มาบอกว่า ด.ญ.บี ถูกนายลิขิต พาเข้าไปข่มขืนในห้องน้ำศาลเจ้าพ่อหนองกุง 2 ครั้งแล้ว คือวันที่ 19 และ 20 ต.ค. เมื่อถึงบ้าน จึงถามลูกสาว ก่อนจะทราบความจริงว่า ลูกสาวถูกข่มขืนจริง โดยบอกว่าเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ถูกเยาวชน อายุ 16 ปี ใช้ปืน จี้บังคับพาไปข่มขืนที่ห้องนอนในบ้าน

โดยครั้งที่
MulticollaC
4 เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ใช้มีดจี้บังคับขณะเล่นน้ำอยู่ที่ลำห้วยยาง ด้านหลังศาลเจ้าพ่อหนองกุง นำไปข่มขืนในห้องน้ำ ใกล้กับลำห้วยยาง ซึ่งเป็นห้องน้ำของศาลเจ้าพ่อหนองกุง และครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ขณะที่ ด.ญ.บี เล่นน้ำอยู่กับเพื่อน และถูกเยาวชนดังกล่าวขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดทะเบียน ใช้มีดจี้บังคับเอาตัวขึ้นรถจักรยานยนต์ นำกลับมาข่มขืนในห้องน้ำของศาลเจ้าพ่อหนองกุงอีกครั้ง” แม่ ด.ญ.บี กล่าว

น.ส.เอ กล่าวต่อว่า หลังทราบรายละเอียดจากลูกสาว จึงเดินทางไปพบกับแม่ของเยาวชนดังกล่าว ซึ่งแม่ฝ่ายชายบอกว่า ไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย ให้ตำรวจมาจับตัวไปเลย ไม่มีแม้คำขอโทษ เมื่อไปหาตำรวจบอกว่าทำไมทั้ง 2 ฝ่ายไม่คุยกันหรือตกลงกัน ตอนนี้ไม่มีความคืบหน้าทางคดีว่า จะแจ้งข้อหา หรือจะจับกุมตัวคนก่อเหตุเมื่อใด จึงเกิดความไม่สบายใจ กลัวว่าลูกสาวจะถูกจี้บังคับไปอีก เพราะคนก่อเหตุยังลอยนวล

พร้อมทั้งมีอาวุธติดตัวอยู่ตลอด จึงมาร้องเรียนสื่อมวลชนให้ช่วยติดตามเรื่องคดีกับทางตำรวจให้ด้วย เพราะคิดว่าเยาวชนอายุเพียง 16 ปี กล้าใช้ปืน ใช้มีด ลักพาตัวด.ญ.เพียง 13 ปีไป แล้วยังชวนเพื่อนมาร่วมก่อเหตุซ้ำแบบนี้ เป็นบุคคลอันตรายที่ตำรวจควรใส่ใจ ควรเร่งรัดให้รวดเร็วด้วย

ขณะที่ ด.ญ.บี กล่าวว่า เยาวชนดังกล่าวมาชอบ แต่ตนไม่ชอบและไม่อยากคบหา จึงพยายามทุกวิถีทางที่จะเอาชนะใจ จนใช้อาวุธปืนสั้นสีดำ ขู่บังคับเอาตัวไปในครั้งแรกจากสวนหย่อมภายในสวนสาธารณะ ขณะเล่นอยู่กับเพื่อน โดยนำตัวไปที่บ้าน ต่อมาครั้งที่ 2 เล่นอยู่ที่สวนหลวง ก็ถูกนำตัวไปที่กระท่อมกลางทุ่งนา ในพื้นที่บ้านหนองนกเขียน ครั้งที่ 3 ใช้มีดจี้บังคับขณะเดินเล่นในหมู่บ้าน นำไปที่กระท่อมริมถนน ทางไปอำเภอกระนวน ครั้งที่้ 4 ในห้องน้ำของศาลเจ้าพ่อหนองกุง และครั้งที่ 5 ในห้องน้ำศาลเจ้าพ่อหนองกุง โดยครั้งที่ 5 นั้น เยาวชนดังกล่าวยังเรียกเพื่อนไม่ทราบชื่อ อายุ 14 ปี มาร่วมก่อเหตุด้วย

“ขณะนี้รู้สึกกลัวมาก เพราะโดนขู่ไว้ว่า ถ้าบอกพอแม่หรือบอกคนอื่น จะฆ่าตนให้ตายและทำร้ายน้องชายวัย 9 ขวบ และจะไปป่าวประกาศเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ชาวบ้านรู้ เมื่อถูกขู่ฆ่า จึงไม่กล้าบอกพ่อแม่ กระทั่งน้องชายเห็น ชาวบ้านเห็น นำเรื่องมาบอกพ่อแม่ให้ทราบดังกล่าว และอยากให้ตำรวจจับ เพราะกลัวจะมาฆ่าตามที่ขู่ไว้ จนตอนนี้หวาดกลัวอย่างมาก” ด.ญ.บี กล่าว

พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภน้ำพอง กล่าวว่า ผู้เสียหายเป็นเด็กหญิง คนถูกกล่าวหาเป็นเยาวชน ส่วนพยานก็เป็นน้องชายของฝ่ายหญิงอายุเพียง 9 ขวบ ตำรวจรับแจ้งความแล้ว แต่การสอบสวน เมื่อผู้เสียหายและคนถูกกล่าวหาเป็นเด็กและเยาวชนทั้งคู่ จึงต้องประสานทีมสหวิชาชีพมาร่วมสอบสวน

เมื่อสอบสวนเสร็จสิ้นก็รวบรวมพยาน หลักฐาน ขอศาลออกหมายจับกุมคนก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะคดีแบบนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตำรวจต้องทำงานให้รอบคอบและชัดเจน จึงจะจับกุมตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีได้

ขอบคุณที่มา      ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ