Social :



‘โฆษกอัยการ’ แจงเลื่อนอ่านพิพากษาคดี ‘น้องชมพู่’ ไม่มีผลเปลี่ยนคำพิพากษา

31 ต.ค. 66 12:10
‘โฆษกอัยการ’ แจงเลื่อนอ่านพิพากษาคดี ‘น้องชมพู่’ ไม่มีผลเปลี่ยนคำพิพากษา

‘โฆษกอัยการ’ แจงเลื่อนอ่านพิพากษาคดี ‘น้องชมพู่’ ไม่มีผลเปลี่ยนคำพิพากษา

จากกรณีศาลจังหวัดมุกดาหาร เลื่อนนัดอ่านคำพิพากษา นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และ น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น สองสามีภรรยา ในคดีการเสียชีวิต น้องชมพู่ ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ทราบจากทางสำนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหารว่า 

สาเหตุที่ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาจากวันที่ 31 ต.ค.ออกไปก่อนนั้น เนื่องจากเป็นคดีสำคัญและในทางปฏิบัติของศาลยุติธรรม ศาลก็จะส่งสำนวนคดีพร้อมคำพิพากษาไปที่สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจตามระเบียบ ก่อนที่จะส่งกลับมาให้กับทางศาลจังหวัดมุกดาหารอ่านคำพิพากษาต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสำนวนและตรวจคำพิพากษา ของอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 จึงมีเหตุต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป 

ส่วนจะเลื่อนออกไปวันไหนนั้นศาลจะแจ้งอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ยืนยันว่า ไม่ส่งผลต่อรูปคดี เพราะกระบวนการสืบพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยเสร็จสิ้นแล้ว ศาลจังหวัดมุกดาหารก็ได้ทำคำพิพากษาตามพยานหลักฐานตามข้อเท็จจริงและกฎหมายส่งให้อธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ตามระเบียบขั้นตอนของราชการศาล

เมื่อถามว่าจำเลยในคดีจะมีส่วนได้ส่วนเสียหรือไม่ นายประยุทธ ระบุว่า ไม่มี เพราะคดีนี้สืบพยานเสร็จสิ้นแล้วทุกอย่าง
Lif
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายโจทก์หรือฝ่ายจำเลยก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาพยานหลักฐานไปเพิ่มเติมแล้ว ทุกอย่างอยู่ระหว่างต้องรอศาลนัดอ่านคำพิพากษาเท่านั้น โดยสาเหตุที่ส่งสำนวนและคำพิพากษาให้กับอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ก็เป็นไปตามระเบียบ ซึ่งเป็นปกติที่ศาลยุติธรรมจะรักษามาตราฐาน เพราะเป็นคดีสำคัญ

ส่วนคดีสำคัญ เป็นอย่างไรนั้น นายประยุทธ กล่าวว่า มีหลายเหตุปัจจัย เช่น สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจ หรือแม้บางคดีเป็นคดีเกี่ยวกับบุคคลสำคัญของประเทศ หรือคดีอุกฉกรรจ์ กระทบต่อความรู้สึกของคนในสังคม ก็เป็นคดีสำคัญได้ อย่างเช่น การเสียชีวิตของน้องชมพู่ ผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก สื่อมวลชนและสังคมเฝ้าติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง คดีนี้สำนักงานอัยการสูงสุดก็ให้ความสำคัญ โดยมีการตั้งคณะทำงาน ส่งอัยการจากสำนักงานอัยการภาค 4 ร่วมกับสำนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร ในการทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ตรวจสำนวน ร่างคำฟ้อง และสืบพยานจนเสร็จสิ้น

นายประยุทธ กล่าวสรุปว่า ขอให้รอฟังคำพิพากษาของศาล ไม่ว่าจะตัดสินอย่างไร หากคู่ความในคดีไม่เห็นพ้อง ย่อมที่จะสามารถอุทธรณ์คำพิพากษานั้นได้ภายใน 1 เดือน หากอุทธรณ์ตัดสินแล้วยังไม่เห็นพ้องอีก ก็สามารถยื่นฎีกาต่ออีกได้.

ขอบคุณที่มา      ข่าวเดลินิวส์

โพสต์โดย : ปลายน้ำ