รู้จัก “ โดนัลด์ ทรัมป์ ” ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 45
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016 ที่ดำเนินไปด้วยความตื่นเต้นสุดระทึกว่า ในที่สุด ได้เกิดการพลิกล็อกมโหฬาร ชนิดหักปากกา ‘ โพล ’ แทบทุกสำนัก
จากม้านอกสายตา ถูกปรามาสว่าการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นเรื่องเหลวไหล แต่สุดท้าย โดนัลด์ ทรัมป์ ก็หักปากกาเซียน โดยเดินมาจนถึงปลายทาง ขึ้นเป็นผู้นำคนที่ 45 ของสหรัฐฯ
และกลายเป็นความจริงตามที่ เซอร์ ฮิวโก สไวร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร ผู้กล้าฟันธงแบบสวนกระแสผลหยั่งเสียงหลายสำนักว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นผู้ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016 ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า ชาวอเมริกันจำนวนมากไม่ยอมรับ หรือไม่กล้ายอมรับอย่างเปิดเผยว่า ชอบผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันจอมอื้อฉาว แต่จะไปบอกรักทรัมป์อย่างเป็นส่วนตัวในคูหาเลือกตั้ง
เรามารู้จักที่มาที่ไปของประธานาธิบดีฝีปากกล้า ผู้ที่สร้างทั้งสีสันและเรื่องอื้อฉาวให้กับการเลือกตั้งครั้งนี้กัน
วันที่ 9 พ.ย. 2559 ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ประกาศออกมาว่า โดนัลด์ ทรัมป์ หรือ โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา คนที่ 45 จากพรรครีพับลิกัน
โดนัลด์ ทรัมป์ เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 1946 (พ.ศ. 2489) นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และนักธุรกิจอุตสาหกรรมสื่อ วัย 70 ปี เป็นลูกชายคนที่ 4 ในจำนวนทั้งหมด 5 คน ของ เฟรด ทรัมป์ เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ในนิวยอร์ก หลังจากพี่ชายคนโต เฟรด ทรัมป์ จูเนียร์ ตัดสินใจประกอบอาชีพนักบิน ทำให้ทรัมป์ได้เป็นผู้สืบทอดธุรกิจของครอบครัวแทน
ทรัมป์ จบการศึกษาสาขาเศรษฐศาสตร์จาก Wharton School ของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย เมื่อปี 2511 ก่อนเข้าบริหารบริษัทก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของพ่อในปี 2524 สร้างชื่อจากการปรากฎตัวในเวทีประกวด Miss
เขาเป็นนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพล นักเขียน และผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ เขาเป็นประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของบริษัททรัมป์ออร์กาไนเซชัน ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา ทรัมป์ยังเป็นผู้ก่อตั้งทรัมป์เอนเตอร์เทนเมนต์รีสอร์ต ที่มีกิจการกาสิโนและโรงแรมหลายแห่งทั่วโลก และด้วยการใช้ชีวิตที่หรูหราและการพูดจาที่โผงผางทำให้เขามีชื่อเสียง ยังเป็นส่วนให้เขาประสบความสำเร็จในรายการเรียลลิตี้โชว์ทางช่องเอ็นบีซี ที่ชื่อ The Apprentice ( ที่เขารับตำแหน่งพิธีกรและผู้อำนวยการสร้าง)
ทรัมป์ เริ่มสนใจลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งแรก เมื่อ 30 ปีที่แล้ว โดยเสนอตัวลงสมัครเลือกตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2000 ในฐานะตัวแทนพรรคปฏิรูป ก่อนจะขอถอนตัวเพราะเกิดความขัดแย้งขึ้นในพรรค และนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 เป็นต้นมา ทรัมป์เป็นสมาชิกที่มีบทบาทมากที่สุดคนหนึ่งใน “ ขบวนการเบิร์ทเธอร์ ” ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวที่ตั้งข้อกังขาเกี่ยวกับสถานะพลเมืองของประธานาธิบดีบารัก โอบามา
กระทั่งเมื่อเดือน มิ.ย. ปี 2558 ทรัมป์ประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในนามพรรครีพับลิกัน และได้กลายเป็นตัวชูโรงของพรรค เพราะความเป็นคนโผงผาง ดุดัน หลายคนจึงเทคะแนนให้ จนบรรดาคู่แข่งของเขาพากันถอนตัวไปทีละคน และเมื่อเดือน ก.ค. ทรัมป์ ได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการให้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันอย่างเป็นทางการ ในที่ประชุมพรรค
การหาเสียงของทรัมป์ได้รับความสนใจทั้งในและต่างประเทศ ส่วนใหญ่มาจากคำให้สัมภาษณ์ , การโพสต์ทวิตเตอร์และการรณรงค์หาเสียงที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้จริง!
แม้ทรัมป์ต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงความไม่เหมาะสมในการเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ทั้งความปากเปราะ ที่มักจะพูดโดยไม่คิด รวมถึงนิสัยที่ไม่ดีนักด้านผู้หญิง มีการเปิดโปงเทปบันทึกเสียงเมื่อปี 2547 ที่ทรัมป์พูดจาหยาบโลนและดูถูกผู้หญิงต่างๆ นานาอีกไม่ต่ำกว่า 10 คน
จนทรัมป์ถูกต่อต้านจากบรรดาสมาชิกรีพับลิกันแถวหน้า แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ ดึงดันสู้ศึกชิงทำเนียบขาวต่อไป ด้วยการชูนโยบายแบบพลิกโฉม!
“ เราต้องการใครสักคนที่สามารถนำพาสหรัฐฯ ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้ ” เป็นคำพูดที่ทรัมป์กล่าวระหว่างการประกาศตน นั่นจึงเป็นที่มาของสโลแกนรณรงค์หาเสียง “ เมก อเมริกา เกรท อะเกน ( Make America Great Again)” หรือ “ ทำอเมริกาให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ” ซึ่งภายใต้แนวคิดนี้ ทรัมป์ ได้ให้คำมั่นว่าเขาจะทำให้เศรษฐกิจของอเมริกากลับมาแข็งแกร่ง ด้วยการสร้างงาน แต่ขณะเดียวกัน นโยบายหลายอย่างของเขาก็นำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ว่าจะเป็น การสร้างกำแพงตลอดแนวชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก เสนอให้มีการประหารครอบครัวผู้ก่อการร้าย แต่ที่เป็นประเด็นขัดแย้งมากที่สุด คือ การเสนอห้ามคนมุสลิมเข้าประเทศ เพื่อป้องกันเหตุก่อการร้าย
ถึงแม้ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ชอบทรัมป์ เพราะมองว่าเป็นคนที่พูดอะไรไม่คิด และมีนโยบายที่ไม่น่าจะทำได้จริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่มหาเศรษฐีวัย 70 ปี ผู้นี้สามารถก้าวมาจนถึงจุดนี้ได้ เพราะหลายๆ คนมองว่าแม้เขาจะเป็นคนโผงผาง แต่ก็เป็นคนที่ปากตรงกับใจ และมักจะพูดในสิ่งที่ชาวอเมริกันอยากได้ยิน นั่นจึงเป็นเหตุผลเพียงพอที่ทำให้เขาได้ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาคนที่ 45
แต่หลังจากนี้อีก 4 ปี สหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2560-2563) ภายใต้การคุมบังเหียนของชายผู้ถูกมองว่าเป็นคนโผงผาง ไร้วิสัยทัศน์นักการเมืองและนักการทูตที่ดีคนนี้ จะนำพาสหรัฐฯ ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้จริงตามที่กล่าวไว้หรือไม่นั้น ต้องติดตาม …!
15 เรื่องน่ารู้ ' โดนัลด์ ทรัมป์ '
1. เขาเป็นประธานาธิบดีที่ีมีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา - ปัจจุบันเขาอายุ 70 ปี
2. เขาเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว 3 หน
3. เขาเป็นประธานาธิบดีคนแรก ที่ไม่เคยเป็นนักการเมืองมาก่อน
4. เขาจบการศึกษาจากมหา ' ลัยเอกชนชั้นนำของประเทศ ระดับมันสมองของเขาดีมากๆ เพราะผลการเรียนของเขาดีเย่ี่ยม
5. เขาเคยเป็นผู้สนับสนุนพรรคเดียวกับนางฮิลลารี คลินตัน มาก่อน (พรรคเดโมแครต) พ.ศ. 2544-2552 แต่ย้ายมาอยู่พรรครีพับลิกันในภายหลัง
6. ตอนที่เขาประกาศหาเสียงว่า จะกันพวกอพยพเข้ามาในอเมริกา แต่แม่ของเขาก็เป็นชาวสกอตที่อพยพมา รวมถึงปู่กับย่าของเขาด้วย ก็เป็นชาวเยอรมันที่อพยพเข้ามาอยู่ในอเมริกาเหมือนกัน
7. เชื่อไหมว่า ก่อนหน้านี้ เขาเคยเป็นเจ้าของการประกวดสาวงามหลายเวทีมาก่อน ทั้งมีสทีนยูเอสเอ มิสยูเอสเอ รวมถึงมิสยูนิเวอร์ส
8. ทรัมป์เขาเคยมีมหา ' ลัยเป็นของตัวเองด้วยนะ ชื่อว่า
9. ผลการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ในปีนี้ ระบุว่า ทรัมป์ ติด 1 ใน 400 เศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก
10. เขามีดาวประดับของตัวเอง อยู่ที่ฮอลลีวูด วอล์ก ออฟ เฟรม ทรงเกียรติมากสำหรับคนบันเทิง
11. เขาเคยตกเป็นข่าวดังเมื่อปี พ.ศ. 2555 เพราะดันไปวิจารณ์ บารัก โอบามา ในตอนสมัยเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 44 เรื่องสัญชาติของโอบามา
12. แม้ทรัมป์จะมีคุณพ่อเป็นมหาเศรษฐี แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อนะครับ จากทุนเริ่มต้นของพ่อ เขาก็ต่อยอดขยายธุรกิจมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นอภิมหาเศรษฐีไปเรียบร้อยแล้ว ทุกวันนี้เขาก็ยังได้ชื่อว่า เป็นนักธุรกิจที่เก่งมาก แถมประสบความสำเร็จอีกต่างหาก
13. แต่กระนั้นก็มีธุรกิจบางอย่างที่เจ๊งเหมือนกันนะครับ
14. เขาเป็นพวกคลั่งชาติ (ซ้ายจัด) ยิ่งตอนหาเสียง ที่เขาประกาศว่า จะกันไม่ให้พวกเม็กซิกันเข้ามาในอเมริกาได้ โดยจะทำกำแพงกั้น กับตอนที่บอกว่า จะกันไม่ให้ชาวมุสลิมเข้ามา เพื่อป้องกันการก่อการร้าย อู้ฮู้ คนเกลียดเขาน่าดูเลย
15. และด้วยบุคลิก อุปนิสัย ขวานผ่าซาก พูดจาตรงๆ โผงผาง เขาเคยพูดซัดคนดังระดับโลกหลายคนมาแล้ว แม้แต่พรรคทีี่เขาเป็นสมาชิกอยู่ ก็โดนแขวะมาแล้วเช่นกัน
... ยังมีเรื่องน่ารู้อีกมากมายเกี่ยวกับชายคนนี้ ลองดูบทบาทการทำหน้าที่อำนาจล้นฟ้าบนเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะทำให้ตัวเขาเปลี่ยนไปมากน้อยเพียงไร อีก 4 ปีต่อจากนี้ ให้ติดตามชมกันครับ จะออกมาในรูปเป็ดขี้เหร่ หรือเจ้าชายขี่ม้าขาว...กันนะครับ
topicza.com
