Social :



10 ที่เที่ยวหน้าหนาวสุดฮอต ไม่มีรถก็ไปได้

10 พ.ย. 59 01:11
10 ที่เที่ยวหน้าหนาวสุดฮอต ไม่มีรถก็ไปได้

10 ที่เที่ยวหน้าหนาวสุดฮอต ไม่มีรถก็ไปได้

หลายคนแอบดีใจเพราะหน้าหนาว ใกล้เข้ามาแล้ว ขอเดาเลยว่ามีหลายคนแอบปักหมุดที่เที่ยวหน้าหนาวไว้ในใจกันบ้างแล้ว แต่บางครั้งสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งไม่เอื้ออำนวยสำหรับคนมีรถ และยิ่งช่วงหน้าหนาวแบบนี้คนคงแห่ออกไปพิชิตลมหนาวกันทั่วหน้า รถติดกันยาวเป็นหางว่าว ไม่ต้องห่วง...วันนี้เราได้รวบรวมที่เที่ยวหน้าหนาวที่ไม่มีรถก็เที่ยวได้มาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ เอาใจคนที่รักการเดินทางแบบชิล ๆ                 

              
1. ดอยผ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่

"ดอยผ้าห่มปก" ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก บนยอดดอยนักท่องเที่ยวสามารถชื่นชนทัศนียภาพความงดงามของทิวทัศน์ ทะเลหมอก เฝ้ามองพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน และอีกหนึ่งเสน่ห์ของดอยผาหลวงห่มปกคือความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทั้งพืชพันธุ์และสัตว์ป่านานาชนิด ซึ่งล้วนแล้วเป็นสัตว์ที่หาดูได้ยาก เช่น ผีเสื้อมรกตผ้าห่มปก ผีเสื้อหางติ่งแววเลือน ผีเสื้อหางดาบตาลไหม้ นกปรอดหัวโขนก้นเหลือง และนกปีกแพรสีม่วง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่กางเต็นท์ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก โทร. 086 430 9748, 053 453 517-8

การเดินทาง

            รถโดยสารประจำทาง  : สามารถเดินทางรถโดยสารประจำทางปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และบริษัทรถร่วมเอกชน เส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จากนั้นนั่งรถสองแถวไปต่อรถบัสสายเชียงใหม่-ฝาง เมื่อเดินทางมาถึงอำเภอฝาง จะมีรถรับจ้างคอยบริการรับส่งไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก หรือนักท่องเที่ยวจะเหมารถเพื่อขึ้นไปยังดอยผ้าห่มปกได้ตามแต่สะดวก สามารถตรวจสอบตารางเดินรถได้ที่ home.transport.co.th



2. ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย

"ภูชี้ฟ้า" มีลักษณะเป็นหน้าผาแนวยาวที่ยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว เป็นหนึ่งยอดเขาสูงที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความสวยงามของทะเลหมอก ความสวยงามของธรรมชาติบนภูชี้ฟ้ากลายเป็นที่โด่งดัง ด้วยเพราะเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือลักษณะภูเขาที่ชี้ขึ้นไปบนฟ้า ยิ่งช่วงใกล้หน้าหนาว ธรรมชาติบนภูชี้ฟ้าจะสวยงามมากเป็นสองเท่า การมาเที่ยวภูชี้ฟ้าในหน้าหนาว นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสอากาศหนาวและความสวยงามของทะเลหมอกแล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้ชมความสวยงามของดอกเสี้ยวที่ผลิดอกสีขาวบานสะพรั่งตลอดเชิงเขา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โทร. 053 795 345

การเดินทาง

            รถโดยสารประจำทาง  : สามารถนั่งรถโดยสารจากจากกรุงเทพฯ นั่งไปลงเชียงราย โดยจากตัวเมืองเชียงรายขึ้นรถที่สถานีขนส่งเดินทางได้ 2 วิธี

           - รถตู้ไปภูชี้ฟ้า  การขึ้นรถตู้ไปภูชี้ฟ้าจะเป็นการเดินทางที่ค่อนข้างสะดวกที่สุด เพราะรถตู้จะไปส่งที่บ้านร่มฟ้าไทย ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่พักต่าง ๆ บนภูชี้ฟ้า สามารถตรวจสอบตารางเวลารถตู้ได้ที่ phucheefah.com

           - รถโดยสารประจำทาง  สายเชียงราย-เชียงคำ หรือ เชียงราย-เทิง-เชียงของ ไปลงที่อำเภอเทิง หลังจากนั้นสามารถโดยสารรถสองแถวเพื่อขึ้นไปยังภูชี้ฟ้า 




3. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

 "ดอยอินทนนท์" สถานที่ชมทะเลหมอกสุดแสนจะคลาสสิกในช่วงหน้าหนาว หลายคนไปที่นั่นแล้วเป็นต้องประทับใจกลับมาทุกที ด้วยเพราะความสวยงามทางธรรมชาติของผืนป่าที่หลากหลาย ทั้งป่าดงดิบ ป่าสน ป่าเบญจพรรณ ที่แต่งแต้มให้วิวทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์ไม่เป็นสองรองใคร รวมถึงปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้ง รวมถึงพืชพันธุ์ไม้หายาก เช่น กุหลาบพันปี ซึ่งจะออกดอกในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สร้างเสน่ห์ให้กับดอยอินทนนท์ ที่ยังคงมีมนตร์เสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนไม่ขาดสาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทร. 053 355 728, 053 311 608

การเดินทาง

            รถโดยสารประจำทาง  : สามารถใช้บริการรถโดยสารของบริษัทขนส่ง สายกรุงเทพฯ-จอมทอง โดยสุดปลายทางที่หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง เป็นจุดต่อรถไปยังดอยอินทนนท์ จากหน้าวัดจะมีรถสองแถวสีเหลืองสายจอมทอง-อินทนนท์คอยให้บริการ ซึ่งจะเป็นรถโดยสารประจำทางวิ่งไปจนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ สามารถตรวจสอบตารางเดินรถได้ที่ home.transport.co.th

            รถไฟ  : มีรถด่วนและรถเร็วออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ หลังจากนั้นโดยสารรถสองแถวไปลงที่ประตูเมือง และที่ประตูเมืองเชียงใหม่จะมีท่ารถสองแถวจอดอยู่ตรงข้ามตลาด (เขียนว่าไปจอมทอง) ลงปลายทางที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง หรือไปก็ขอลงตรงสามแยกทางเข้าดอยอินทนนท์ และสามารถติดต่อรถของเจ้าหน้าที่เพื่อออกมารับเราเข้าไปยังดอยอินทนนท์ต่อไป ตรวจสอบตารางการเดินรถไฟได้ที่ railway.co.th

            เครื่องบิน  : โดยสารเครื่องบินมาลงที่สนามบินเชียงใหม่ หลังจากนั้นมาขึ้นรถที่ประตูเชียงใหม่ ลงที่อำเภอจอมทอง แล้วจะมีรถสองแถวขึ้นไปบนดอยอินทนนท์อีกทีหนึ่ง ตรวจสอบตารางเที่ยวบินได้ที่ chiangmaiairportthai.com




4. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่


"อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง" พลาดไม่ได้กับจุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) เป็นจุดชมวิวที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม บริเวณนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวแวะเวียนขึ้นมาชมความสวยงามของทะเลหมอกและความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน สามารถมองเห็นธรรมชาติที่สวยงามของทิวเขาอันสลับซับซ้อน ซึ่งมีดอยหลวงและดอยเชียงดาวที่สูงที่สุดเป็นใจกลาง ทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกอันกว้างใหญ่ ขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่ดอกไม้กำลังบานสวยงาม ทำให้ทั่วบริเวณจุดชมวิวอบอวลไปด้วยบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกและอบอุ่น ช่วยผ่อนคลายความหนาวที่เข้าปกคลุมอยู่รอบตัวได้เป็นอย่างดี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง โทร. 053 248 491, 084 908 1531

การเดินทาง

            รถโดยสาร  : สามารถใช้บริการรถโดยสารของบริษัทขนส่งสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จากสถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่ โดยจากตัวเมืองเชียงรายขึ้นรถที่สถานีขนส่งเดินทางได้ 2 วิธี

          - นั่งรถโดยสารสายเชียงใหม่-ปาย ลงหน้าปากทางเข้าห้วยน้ำดัง

          - นั่งรถตู้ที่จะไปปาย แล้วบอกกับคนขับว่าลงห้วยน้ำดัง

          สามารถตรวจสอบตารางเดินรถได้ที่ home.transport.co.th

            รถไฟ  : สามารถโดยสารรถไฟสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ หลังจากมาถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ นั่งรถแดงไปลงที่อาเขต หลังจากนั้นโดยสารรถตู้สายที่จะไปปาย และขอลงที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ตรวจสอบตารางการเดินรถไฟได้ที่ railway.co.th




5. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย

"อุทยานแห่งชาติภูกระดึง" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงหน้าหนาว และเป็นบริเวณที่มีอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิอยู่ที่ 0-10 องศา ภายในอุทยานแห่งชาติภูกระดึงมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น "สระอโนดาต" บึงธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยป่าสน และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดิน "ผาหมากดูด" จุดถ่ายรูปและจุดชมพระอาทิตย์อัสดงยอดฮิตของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง "ผานกแอ่น" จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ในช่วงฤดูหนาวจะเห็นทะเลหมอกปกคลุมไปทั่ว "ผาเหยียบเมฆ" ลานหินกว้างเป็นจุดชมวิวระยะไกล ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างผาหมากดูดและผาหล่มสัก ความสมบูรณ์ของธรรมชาติบนภูกระดึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าหนาว จึงเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนต่างถวิลหา และอยากไปสัมผัสให้เห็นกับตาสักครั้ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทรศัพท์ 042 810 833 และ 042 810 834

การเดินทาง

            รถโดยสารประจำทาง  : นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถโดยสารประจำทางปรับอากาศจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) สายกรุงเทพฯ-เมืองเลย จากนั้นให้มาลงรถที่ผานกเค้าหรือสถานีขนส่งอำเภอภูกระดึง และต่อรถสองแถวเข้าไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง สามารถตรวจสอบเวลาเดินรถได้ที่ home.transport.co.th

           

MulticollaC
รถไฟ  : เนื่องจากจังหวัดเลยยังไม่มีเส้นทางรถไฟวิ่ง หากต้องการเดินทางโดยรถไฟสามารถขึ้นที่สถานีหัวลำโพงแล้วไปลงที่ขอนแก่นได้ จากนั้นต่อรถโดยสารประจำทางสายขอนแก่น-เลย มาลงที่ผานกเค้า แล้วต่อรถสองแถวเข้าไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตรวจสอบตารางการเดินรถไฟได้ที่ railway.co.th




6. อุทยานแห่งชาติภูเรือ จังหวัดเลย

 "อุทยานแห่งชาติภูเรือ" มีลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้อากาศบนอุทยานมีอากาศหนาวเย็น จนบางครั้งทำให้น้ำค้างที่เกาะบนยอดหญ้าแข็งตัวเป็นแม่คะนิ้ง เป็นที่ถูกอกถูกใจสำหรับนักท่องเทียวที่ชอบผจญภัยกับความหนาวเย็น ทั้งนี้บนอุทยานแห่งชาติภูเรือยังมีสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น "ผาโหล่นน้อย" จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม "ยอดภูเรือ" พื้นที่สูงสุดในเขตอุทยาน นักท่องเที่ยวสามารถรับชมทัศนียภาพที่สวยงามได้อย่างรอบด้าน "ผาซำทอง" จุดชมวิวที่ลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน เป็นต้น นอกจากนี้ภายในอุทยานยังมีพื้นที่กางเต็นท์ ที่พัก ที่จอดรถ และร้านอาหาร ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูเรือ โทร. 088 509 5299

การเดินทาง

            รถโดยสาร  : สามารถเดินทางรถโดยสารสายกรุงเทพฯ-เลย มาลงหน้าตลาดเช้าใกล้ภูเรือ หลังจากนั้นติดต่อเหมารถสองแถวขึ้นไปได้ยังอุทยานแห่งชาติภูเรือ สามารถตรวจสอบเวลาเดินรถได้ที่ home.transport.co.th

            รถไฟ  : เนื่องจากจังหวัดเลยไม่มีสถานีรถไฟ แต่สามารถนั่งรถไฟจากสถานีหัวลำโพงมาลงที่สถานีรถไฟอุดรธานี และต่อรถโดยสารประจำทางไปจังหวัดเลย สอบถามรายละเอียดได้ที่ หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690, 0 2220 4334, 0 2220 4444 หรือ railway.co.th หรือสถานีรถไฟอุดรธานี โทร. 0 4222 2061




7. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

"อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวหน้าหนาว โดยเฉพาะในยามเช้าที่จุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในเขตอุทยานจะปกคลุมด้วยไอหมอกจาง ๆ ที่พัดผ่านมาพร้อมกับสายลมเบา ๆ ภายในมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามต่าง ๆ มากมาย เช่น น้ำตก สัตว์ป่า เส้นทางศึกษาธรรมชาติ เป็นต้น อากาศที่นี่ไม่ร้อนจัดหรือหนาวจัดจนเกินไป จัดอยู่ในประเภทเย็นสบายตลอดทั้งปี ยิ่งในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ นักท่องเที่ยวจะนิยมไปที่นี่กันมาก เพราะนอกจากจะอากาศดีแล้ว บรรยากาศหน้าหนาวของที่นี่ยังโรแมนติกมากอีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โทร. 086 092 6529, 037 356 033)

การเดินทาง

            รถโดยสาร  : สามารถโดยสารรถประจำทางสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ไปลงที่อำเภอปากช่องได้ จากหน้าสถานีขนส่งปากช่อง หลังจากนั้นนั่งรถสองแถว โดยปลายทางหมดระยะที่หน้าทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และถ้าจะขึ้นเขาใหญ่ แนะนำให้เหมารถสองแถว (บริเวณที่เราลงรถหรือเหมาจากตลาดปากช่องก็ได้) เข้าไปยังเขาใหญ่ต่อไป (สามารถตรวจสอบเวลาเดินรถได้ที่ home.transport.co.th)

            รถไฟ  : ขึ้นรถไฟลงที่สถานี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา แล้วต่อรถสองแถวที่ตลาดอำเภอปากช่อง-อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สามารถตรวจสอบตารางเวลารถไฟได้ที่ railway.co.th




8. อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์

ใคร ๆ ต่างก็พากันพูดว่าในยามหน้าหนาว "อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว" มีเสน่ห์และน่าไปเยือนมากที่สุด เหมาะแก่การเดินทางมาท่องเที่ยวรับลมหนาวเป็นอย่างมาก สถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานที่นักท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด ได้แก่ "จุดชมทิวทัศน์ถ้ำผาหงษ์" จุดชมพระอาทิตย์ที่มีชื่อเสียงของอุทยาน ซึ่งภายในถ้ำผาหงส์ยังมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม และเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวหลายชนิด "จุดชมทิวทัศน์ภูค้อ" อีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของผืนป่าเขียวขจี และ "สวนสนภูกุ่มข้าว" ป่าสนสามใบ ที่มีต้นสนขนาดใหญ่ขึ้นรายล้อมตามธรรมชาติอย่างหนาแน่น ราวกับเป็นท้องทะเลของยอดสนสีเขียวแสนสวยงาม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว โทร. 056 729 002

การเดินทาง

            รถโดยสาร  : สามารถโดยสารรถประจำทางสายกรุงเทพฯ-หล่มสัก ไปลงที่สถานีขนส่งหล่มสัก หลังจากนั้นต่อรถสายขอนแก่น-หล่มสัก รถจะผ่านหน้าทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติหล่มสัก ในช่วงฤดูท่องเที่ยวระหว่างเดือนตุลาคมถึงมกราคม จะมีรถท้องถิ่นให้บริการจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติหล่มสัก ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อีกด้วย สามารถตรวจสอบตารางเวลาเดินรถได้ที่ home.transport.co.th



9. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

 "อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน" เป็นอุทยานที่มีพื้นที่กว้างที่สุดของประเทศ ที่ยังคงสภาพป่าดงดิบตามธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในอุทยานแก่งกระจาน ได้แก่ "เขาพะเนินทุ่ง" มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้ากว้าง โอบล้อมด้วยป่าดิบเขาและสัตว์ป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าหนาว นักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินไปกับการชมทะเลหมอกสีขาวโพลน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ขอกางเต็นท์สำหรับพักค้างแรมที่นั่นได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเส้นทางดูนก ผีเสื้อ น้ำตกทอทิพย์ แคมป์บ้านกร่าง คงไม่มีอะไรจะดีกว่าการนำตัวเองเข้าไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และสายลมหนาวที่พัดมาคลอเคลียเฉกเช่นที่ "อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน" แห่งนี้อีกแล้ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแก่งกระจาน โทร. 032 459 293

การเดินทาง

            รถโดยสาร  : สามารถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-ท่ายาง ลงที่ตลาดท่ายาง จากนั้นต่อรถสองแถวไปตลาดแก่งกระจาน และต่อรถรับจ้างหรือจักรยานยนต์ไปอีก 4 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สามารถตรวจสอบเวลาเดินรถได้ที่ home.transport.co.th


            รถตู้โดยสารประจำทาง  : จากอนุสาวรีย์ชัย บริเวณด้านข้างของห้างเซ็นจูรี่ ไปลงหน้าที่ว่าการอำเภอแก่งกระจาน จากนั้นต่อรถไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน




10. ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

 "ปางอุ๋ง" สถานที่ที่มีทัศนียภาพงดงามอย่างยิ่ง จนได้รับสมญาว่าสวิตเซอร์แลนด์แดนสามหมอก เสน่ห์สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดใจให้ใครหลาย ๆ คนเอยากมาสัมผัสความงดงามของปางอุ๋งด้วยตาตัวเอง นั่นคือเวิ้งน้ำที่กระทบแสงอาทิตย์ในยามเช้าและยามเย็น โดยเฉพาะในยามเช้าที่มีสายหมอกสีขาวนวลลอยคลอเคลียอยู่ใกล้ ๆ ผืนน้ำ มีหงส์สีขาวและสีดำว่ายน้ำอวดโฉมความสง่างามดุจดั่งภาพวาดในนวนิยาย หรือแม้แต่ยามเย็นที่พระอาทิตย์จะค่อย ๆ ลาลับขอบฟ้า สาดแสงสีทองสุดท้ายไว้ให้คิดถึง หรือแวะสัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้าน "บ้านรวมไทย" ดูของที่ระลึก ชิมอาหารจีนยูนนาน เคล้าชาร้อน ๆ รสชาตินุ่มลิ้น นี่มันสวรรค์บนดินชัด ๆ

การเดินทาง

            รถโดยสารประจำทาง  : สามารถโดยสารรถประจำทางสายกรุงเทพฯ-ปาย ลงที่สถานีอาเขตจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจากเชียงใหม่มีทั้งรถตู้และรถโดยสารบริการไปยังอำเภอปายหลายเที่ยวด้วยกัน หลังจากนั้นนั่งรถประจำทางสายเชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอน ไปลงที่ไปรษณีย์แม่ฮ่องสอน แล้วต่อรถไปตลาดสายหยุด จะมีคิวรถสองแถวไปยังปางอุ๋ง สามารถตรวจสอบเวลาเดินรถได้ที่ home.transport.co.th

            เครื่องบิน  : สามารถโดยสารเครื่องบินมายังที่สนามบินเชียงใหม่ หลังจากนั้นต่อเครื่องไปลงแม่ฮ่องสอน หลังจากนั้นสามารถเช่ามอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ไปยังปางอุ๋ง หรือถ้าใครไม่อยากต่อเครื่องไปแม่ฮ่องสอน สามารถนั่งรถโดยสารเปรมประชาไปแม่ฮ่องสอน และนั่งรถสองแถวต่อไปยังปางอุ๋ง (สามารถตรวจสอบตารางบินได้ที่ chiangmaiairportthai.com)

            รถไฟ  : สามารถโดยสารรถไฟมายังที่สถานีรถไฟสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โดยสารรถแดงไปที่สถานีขนส่งอาเขต และโดยสารรถประจำทางไปยังสถานีขนส่งแม่ฮ่องสอน หลังจากนั้นสามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไปยังปางอุ๋ง แต่ถ้าไม่เช่ารถมอเตอร์ไซค์สามารถนั่งรถสองแถวจากตลาดสายหยุดไปยังปางอุ๋ง (บ้านรวมไทย) สามารถตรวจสอบตารางเวลารถไฟได้ที่ railway.co.th



ที่มา : kanchanaburi.go.th, kiriwonggroup.com

โพสต์โดย : fork3026