‘Not my president – Trump’ อเมริกันชนช็อก ! ออกมาเดินประท้วง ลุกลามทั่วอเมริกา
วันนี้ ( 10 พ.ย. 59) ภายหลังจากเมื่อวานนี้ มีการประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยปรากฏว่า “ โดนัลด์ ทรัมป์ ” สามารถเอาชนะ “ ฮิลลารี คลินตัน ” อย่างขาดลอย ทำเอากลุ่มผู้สนับสนุน นางคลินตัน ช็อกและทำใจยอมรับไม่ได้ ถึงขั้นรวมกลุ่มประท้วงหน้าทำเนียบขาว
อย่างที่เห็น ภาพบรรยากาศการรวมตัวประท้วงและแสดงความไม่พอใจของชาวสหรัฐฯ หลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี คนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่ง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ชนะนางฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต อย่างพลิกความคาดหมาย
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ได้ขว้างปา ทุบทำลายสิ่งของ บางส่วนร้องตะโกนด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมร้องตะโกนว่า "ทรัมป์ไม่ใช่ประธานาธิบดีของพวกเขา" ซึ่งกระแสความไม่พอใจผลการเลือกตั้งได้ลุกลามเป็นวงกว้าง และการประท้วงมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ จิตแพทย์กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊กเตือนคนไทยในสหรัฐฯ จับตาและระมัดระวัง “hate crime”
ทุกการโหวตมีชนะและแพ้ ตามหลักจิตวิทยาสังคมแล้ว คนที่อยู่ข้างโหวตชนะมักจะเกิดความเชื่อว่า ชุดความคิดของตัวเองนั้นถูกต้อง และเป็นชุดความคิดของคนส่วนมากในประเทศ สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือ การแสดงออกชุดความคิดนี้ในที่สาธารณะอย่างอิสระ และเผลอคิดไปว่าสังคมภายนอกจะเห็นด้วยเสมอ จึงเป็นที่มาของ hate crime หรือ อาชญากรรมแห่งการเกลียดชัง เหยียดชนชาติ เหยียดผิว เหยียดเพศ ที่สูงขึ้นอย่างมหาศาลในอังกฤษหลังจากการโหวต Brexit
โดยข้อมูลจาก BBC ระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากผลโหวตให้อังกฤษออกจากอียู hate crime ในอังกฤษกระโดดขึ้น 41% ในเดือน ก.ค.ปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และทำให้ภาพรวมทั้งปีสูงขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปีก่อน (ข้อมูลจาก BBC)
“ ในความเป็นจริงคนอังกฤษไม่ได้อินเรื่องการโหวต Brexit เท่าการเลือกตั้งของคนอเมริกันด้วยซ้ำ คะแนนของอังกฤษสูสีกันมากกว่านี้ และไม่ได้ถือว่าพลิกล็อกกันมากนัก ไม่ได้มี cyber bullying กับ media war ซัดกันมาก่อนขนาดนี้ เลยไม่ได้มีความรู้สึกแพ้ชนะกันรุนแรง เท่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ”
topicza.com